‘ชุมสาย’ จับตา กกต.ออกระเบียบยุบพรรคติดเทอร์โบก่อนเลือกตั้ง ทำเกินอำนาจหรือไม่ ชี้อาจขัด รธน.และกฎหมายแม่บท ระวังถูกฟ้องศาลปกครอง
นายชุมสาย ศรียาภัย รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ กกต.ได้ออกระเบียบ 3 ฉบับและได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง การยุบพรรคติดเทอร์โบ โดยในระเบียบดังกล่าวระบุถึงระยะเวลาที่ใช้ในกระบวนการยุบพรรคการเมืองเพียง 67 วัน จากเดิมที่ไม่ได้กำหนดระยะเวลา ตนได้ตรวจข้อกฎหมายลำดับศักดิ์ของกฎหมายแล้ว พบว่า แม้ กกต.จะอ้าง อาศัยอำนาจตามมาตราต่างๆในรัฐธรรมนูญ 60 และ พรป.กกต. และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆ ซึ่งเป็นกฎหมายแม่บท รวมถึง พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาการดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2565 แต่ตนเห็นว่า บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญและ พรป.กกต.ไม่ได้ให้อำนาจ กกต.ออกระเบียบในลักษณะนี้ได้ ดังนั้นการกระทำดังกล่าวของ กกต.อาจเป็นการออกระเบียบโดยไม่มีอำนาจ หรือนอกเหนืออำนาจ ระเบียบดังกล่าวจึงอาจไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.ประกอบกับการยุบพรรคเป็นโทษกับพรรคการเมือง กกต.จึง ไม่มีอำนาจออกระเบียบได้ และระเบียบดังกล่าวไม่สามารถมีผลย้อนหลังในคดีความที่นักร้องต่างๆ ได้ยื่นยุบพรรคการเมืองในช่วงก่อนหน้านี้ด้วย
ทั้งนี้ระเบียบนี้เป็น “กฎ” เมื่อ กกต. ในฐานะหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย พรรคการเมืองที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนเสียหายมีอำนาจยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนทำลายกฎดังกล่าวได้ ซึ่งที่ผ่านระเบียบที่ออกมาในทำนองนี้ ก็ได้มีผู้ฟ้องและศาลปกครองวินิจฉัยว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายและเพิกถอนมาแล้ว
นายชุมสาย กล่าวอีกว่า อำนาจในการยุบพรรคการเมืองจะกระทำได้ในกรณีใดบ้างถูกกำหนดไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองโดยเฉพาะอยู่แล้ว กกต.จะออกระเบียบเพิ่มอำนาจและเหตุที่จะยุบพรรคการเมืองให้ต่างไปจากกฎหมายแม่บทไม่ได้ และแม้ว่าฐานอำนาจในการออกระเบียบ กับกระบวนการจะชอบด้วยกฎหมาย แต่ในเนื้อหา อาจไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงต้องดูเป็นกรณีๆไป จึงขอเรียกร้องให้ กกต.ใช้อำนาจตามหลักความชอบด้วยกฎหมาย ของการกระทำทางปกครองและหลักความได้สัดส่วน เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามที่รัฐธรรมนูญรับรองคุ้มครองไว้มากเกินสมควร เพราะขณะนี้ สิ่งที่น่ากังวลคือ ที่ผ่านมาบางหน่วยราชการภายใต้ระบอบประยุทธ์มักมีตรรกะในการใช้อำนาจมากกว่ากฎหมาย ซึ่งเป็นสภาพเช่นนี้มาตั้งแต่ พลเอกประยุทธ์เข้าสู่อำนาจ จึงต้องมีการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในหลายประเด็น พรรคเพื่อไทยมีความมุ่งหมายให้บ้านเมืองเดินไปด้วยกฎหมาย ความยุติธรรม ยึดหลักนิติธรรมและหลักการประชาธิปไตยที่ควรจะเป็นในรูปแบบสากล เพื่อให้ความยุติธรรม และประชาธิปไตยหยั่งรากลึกลงในสังคมให้ได้
“ดูเหมือนว่า กกต.จะขยันเป็นพิเศษ คนทั้งประเทศใจจดใจจ่อ เตรียมเลือกตั้ง ตอนนี้เรื่องแบ่งเขตก็ยังไม่เรียบร้อย แต่ กกต.มาออกระเบียบเรื่องยุบพรรค ถามว่ามีวาระซ่อนเร้นอะไรพิเศษหรือไม่ ระเบียบต่างๆ ที่ผ่านมา กกต.ได้ขยายขอบเขตอำนาจออกไปกว้างขวางมาก บางเรื่องศาลก็ได้วินิจฉัยให้ กกต.รับผิดตามกฎหมาย ขณะนี้สังคมเพรียกหารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เรียกร้องประชาธิปไตย มากกว่ากว่าการหาเหตุยุบพรรค ถ้ามีกรณียุบพรรคการเมืองโดยไม่สมเหตุสมผลหรือไร้ความผิด บ้านเมืองจะยุ่งเหยิงขนาดไหน จึงฝากให้รัฐบาลและ กกต.ได้ตระหนักในเรื่องนี้ด้วย” นายชุมสายกล่าว