นายนพดล ปัทมะ รองประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ปัญหาค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆรุนแรงติดอันดับโลกมาต่อเนื่อง กระทบและทำลายสุขภาพของพี่น้องคนไทยจำนวนมาก ทั้งลูกเด็กเล็กแดงไปจนถึงผู้สูงอายุ เพียงแค่อากาศบริสุทธิ์ก็ต้องร้องขอ เป็นที่อเนจนาถ และเศร้าใจว่าเราปล่อยให้ประเทศมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร มีคำถามว่าผู้รับผิดชอบคือรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐทำอะไรอยู่ ปัญหาเข้าขั้นวิกฤตแล้ว ท่านทำดีที่สุดแล้วหรือยัง พวกท่านแก้ปัญหาในสถานการณ์วิกฤตอยู่หรือไม่ ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งวอร์รูมP.M. 2.5 อย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อระดมสมองและสรรพกำลังแก้ปัญหานี้ แล้วรายงานสถานการณ์และความสำเร็จในการแก้ปัญหาเรียลไทม์ตามที่เกิดขึ้นจริงให้ประชาชนทราบ ตนเห็นว่าเรื่องนี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตนจะเสนอพรรคเพื่อไทยเพื่อผลักดันเป็นนโยบายแก้ปัญหาดังนี้

1. บังคับใช้หลักการผู้ก่อมลภาวะต้องจ่ายราคาแพง เข้มงวดการเผาป่า เผาไร่เช่น อ้อย ข้าวโพด อย่างเคร่งครัด ไม่ซื้ออ้อยที่เผามา นำซากเหลือทางการเกษตรมาทำปุ๋ยหรือผลิตพลังงาน ปลูกป่าขนานใหญ่ทั่วประเทศ
2. เร่งเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อไม่ให้เผาซากผลผลิตทางการเกษตร
3. เร่งเปลี่ยนรถเมล์ในกรุงเทพมหานครและเมืองใหญ่เป็นรถไฟฟ้า
4. เข้มงวดรถปล่อยควันพิษ โรงงานปล่อยมลพิษ และ ไซท์ก่อสร้างทำให้เกิดฝุ่น
5. เร่งทำไทยเป็นศูนย์กลางผลิตรถไฟฟ้า สร้างรายได้เข้าประเทศและให้คนไทยซื้อรถไฟฟ้าในราคาถูกลง
6. ผลักดันร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด สร้างหลักประกันทางกฎหมายเพื่ออากาศสะอาดของพี่น้องประชาชน

“ปัญหาฝุ่น pm 2.5 ทำลายสุขภาพคนไทย ทำลายเศรษฐกิจของประเทศ ปัญหาส่วนใหญ่มาจากมนุษย์ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันไม่ปล่อยให้แก้ปัญหาแบบนี้อีกต่อไป เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมืองว่าใครจะมีตำแหน่งแต่เป็นเรื่องว่าคนไทยจะมีชีวิตรอดอย่างไร รัฐบาลและผู้รับผิดชอบต้องเอาจริงกว่านี้และต้องแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ อย่าทำเป็นทองไม่รู้ร้อน เพราะสุขภาพและชีวิตของคนไทยรอไม่ได้” นายนพดล กล่าว