นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลรราชธานี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีทีมีกระแสข่าวว่า การแบ่งเขตเลือกตั้ง พบว่า ในบางจังหวัดมีการแบ่งเขตเลือกตั้งไม่เป็นไปตามหลักรัฐธรรมนูญ การแบ่งเขตเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.ในหลายพื้นสร้างความสับสน ให้ประชาชน เพราะแบ่งเขตเลือกตั้งแบบไม่เห็นหัวประชาชน และไม่เป็นไปตาม หลักรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้มีกระแสข่าวว่า ผู้มีอำนาจและอิทธิพลบางกลุ่ม บางคนสั่งการให้แบ่งเขตเลือกตั้งส.ส.ตามที่ผู้มีอำนาจต้องการเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองบางพรรค

อยากฝากไปยัง กกต.ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน อย่าให้เป็นเหมือนการเลือกตั้งปี 2562 ที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ใช้อำนาจมาตรา 44 จัดการการเลือกตั้งให้เป็นไปตามใจของผู้มีอำนาจ และความได้เปรียบทางการเมือง นอกจากนี้การคิดคะแนน ส.ส.ระบบบัญชี รายชื่อควรที่จะโปร่งใสสามารถอธิบายกับสังคมได้ นอกจากนี้การนับคะแนนบัญชีรายชื่อ ควรนำคะแนนบัญชีรายชื่อรวมกันทั้งประเทศมาหารด้วย 100 ก็จะได้ส.ส.1 คน ส่วนที่เกินสามารถปัดเศษให้กับพรรคการเมืองขนาดเล็กอาจจะได้ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อหากมีการนับคะแนนอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม

นายสมคิด กล่าวด้วยว่า ประชาชนให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งในครั้งนี้มาก ดังนั้นประชาชนจะจับตาดูการทำงานของ กกต.และกรรมการประจำหน่วยอย่างใกล้ชิด หากมีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือไม่โปร่งใสเชื่อว่าประชาชนไม่ยอมแน่ เจ้าหน้าที่กกต.ต้องระมัดระวังและกรรมการประจำหน่วยต้องซื่อสัตย์และเข้าใจบทบาทการทำหน้าที่ของตนเอง ไม่เปิดโอกาสให้มีการ
กระทำที่ไม่เหมาะสม ทั้งก่อนและหลังการปิดหีบเลือกตั้ง ขอโอกาสให้ทุกฝ่ายร่วมสังเกตุการณ์เพื่อความโปร่งใส

“หากการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังคงมีกรณีเกิดบัตรเกินอย่างเช่นปี 2562 อีกคงไม่มีใครยอม ดังนั้นหากเกิดกรณีบัตรเกินอย่างเพิ่งนำไปรวมคะแนน ต้องนับให้ชัดก่อนรายงานผล ในการเลือกตั้งที่จะถึงพรรคเพื่อไทย จะตั้งผู้สังเกตุการณ์ประจำหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งพรรคเพื่อไทย จะไม่ปล่อยผ่านเลยไป หากพบว่ามีการกระทำที่ไม่โปร่งใสไม่ปล่อยผ่านแน่ จะมีการฟ้องประชาชน ฟ้องสังคมและฟ้องร้องต่อกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้หากกกต.จัดการเลือกตั้งไม่เป็นไปอย่างบริสุทธ์ยุติธรรมเชื่อว่าจะมีคนไปร้องศาล เอาผิดกับกกต.ซึ่ง สุดท้ายกกต.อาจติดคุกได้ ” นายสมคิด กล่าว