“นพพล”อัด “ประยุทธ์”สนแต่การเมืองไม่เหลียวแลปัญหาประชาชน แนะรัฐเร่งแก้ปัญหาภัยแล้ง ลั่นปีนี้แล้งหนักแน่หวัง “ประวิตร”ฟังเสียงเกษตรกรบ้าง

นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากภาพรวมของสถานการณ์น้ำในพิษณุโลกน่าเป็นห่วง รวมทั้งมีความกังวลใจว่าปีนี้ภัยแล้งจะมาเร็ว และมาแรงกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้พบว่าในหลายจังหวัดใกล้เคียง เกษตรกรเริ่มประสบปัญหาภัยแล้งแล้ว ดังนั้นในพื้นที่พิษณุโลกหากรัฐบาลยังไม่เร่งแก้ปัญหา จะกระทบพื้นที่นาข้าวนับหมื่นไร่และเกษตรกรหลายหมื่นครัวเรือนอย่างแน่นอน

กรณีที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ กนช. อ้างว่าตั้งแต่เป็นรัฐบาลไม่เคยมีเกษตรกรที่ไหนมามาร้องเรียนเรื่องภัยแล้งแต่อย่างใด หากเป็นเช่นนั้นจริง พลเอก ประวิตร คงหูดับ หรือก้มหน้าก้มตาอ่านแต่รายงานที่ลูกน้องรายงานมา เพราะในความเป็นจริง ความแห้งแล้งเกิดขึ้นหลายจังหวัด เกษตรกรประสบปัญหาภัยแล้งที่รุนแรง เกษตรกรหลายหมื่นครัวเรือนต้องยืนดูต้น ข้าวแห้งตาย เพราะไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยงนาข้าวที่เกษตรกรลงแรงปักดำหวังรายได้จากนาข้าวของตนเอง ส่งผลให้เกษตรกรในหลายพื้นที่ต้องลงขันระดมทุนจ้างบริษัทเอกชนมาขุดบ่อสูบน้ำบาดาลทำนากันแล้ว

นายนพพล กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันน้ำต้นทุนในเขื่อนสิริกิติ์จังหวัดอุตรดิตถ์ ทำหน้าที่ดูแลน้ำเพื่อการเกษตรให้กับเกษตรกรใน 4 จังหวัด อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร และนครสวรรค์ จะมีปัญหา เพราะมีน้ำต้นทุนเพียง 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ใช้ได้เพียงเหลือเพียง 2,700 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น กังวลว่าปริมาณน้ำจะไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตร พลเอกประวิตรต้อง เร่งในการบริหารจัดการน้ำหรือหาแหล่งน้ำรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้น อย่ามาอ้างว่าเป็นช่วงปลายรัฐบาลทำอะไรไม่ได้ เพราะท่านยังมีอำนาจในการบริหารจัดการจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ทั้งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร อย่ามัวแต่เอาเวลาไปเดินสายหาเสียงจนไม่รับรู้ความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลต้องทำงานให้ประชาชน อย่าเอาเรื่องการเมือง นำหน้าการแก้ปัญหาให้ประชาชน

“หากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสเป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยเตรียมความพร้อม ในการในการแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ แต่น่าประหลาดใจการบริหารจัดการน้ำ ของพลเอกประยุทธ์ ใช้งบประมาณสูงกว่า 6 แสนล้านบาทแต่แก้ปัญหาภัยแล้งไม่ได้ ต่างจากโครงการบริหารจัดการน้ำสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่มีแผนงานในการแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ แก้ปัญหาทั้งน้ำแล้ง น้ำล้น แต่ถูกล้มโครงการหลังการรัฐประหาร ดังนั้นการรัฐประหาร คือการทำลายโอกาสของประชาชนอย่างแท้จริง จนถึงปัจจุบันพลเอกประยุทธ์ มุ่งแต่หาเสียง เพื่อครองอำนาจและสืบทอด อำนาจ ไม่เคยคิดถึงประชาชน อย่างแท้จริง แสดงออกอย่างชัดเจนว่า ไม่มีความจริงใจที่จะแก้ปัญหา ทั้งสองท่านไม่สงสารประชาชนบ้างหรือ” นายนพพล กล่าว