นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ในหลายจังหวัดช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งว่า พลเอกประยุทธ์ และพลเอกประวิตร มีความขยันในช่วงนี้และรักประชาชนมากเป็นพิเศษ แต่ล่าสุดการลงพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์จังหวัดราชบุรี มีประชาชนเข้ามาแสดงความรู้สึกที่มีต่อพลเอกประยุทธ์ แต่เจ้าหน้าที่กลับกระทำการปิดปาก ลากตัวเข้ามุมอับ เป็นคลิปเผยแพร่ทั่วไป แม้นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะชี้แจงว่า เป็นไปโดยหลักสากล และพลเอกประยุทธ์เอง กล่าวว่า ‘จะเห็นต่างสักกี่คน เป็นร้อย เป็นพันค้น หรือมา 3 คนไม่สนใจอยู่แล้ว’ ยิ่งเป็นการแสดงให้ประชาชนได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่เคยมีประชาชนอยู่ในหัวใจ ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ที่ไม่สามารถดำเนินการตามนโยบายที่หาเสียงไว้ในปี 2562 มีจิตสำนึกที่เมินเฉย ละเลย ไม่เห็นค่าของประชาชน ทั้งที่ประชาชน 1 คน มีสิทธิมีเสียงเทียบเท่าเช่นเดียวกับเสียงของพลเอกประยุทธ์เอง ก็มี 1 เสียง 1 สิทธิ์ เช่นกัน

นอกจากท่าทีที่ไม่เห็นคุณค่าในเสียงของประชาชนแล้ว พลเอกประยุทธ์ ควรมีมารยาททางการเมือง ควรกระทำการที่ไม่เอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ด้วย ที่ผ่านมาการที่พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ แต่ตอนนี้เตรียมความพร้อมไปเป็นแคนดิเดตของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็บ่งบอกได้ว่า พลเอกประยุทธ์ยากที่จะเป็นนักการเมืองที่ประชาชนจะฝากชีวิตไว้ได้อีกต่อไป

“ล่าสุดพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคใหม่ที่พลเอกประยุทธ์เข้าไปสังกัด ออกแคมเปญไอติม เปรียบเทียบนโยบายประชานิยมที่หล่นหายระหว่างทาง ถือเป็นความพยายามที่ไร้ผล เพราะนโยบายของพรรคพลังประชารัฐเองพลเอกประยุทธ์ยังไม่สามารถทำตามนโยบายได้ คงไม่ต้องพูดถึงว่าจะทำต่อ เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ทำเลย” นางสาวตรีชฎา กล่าว