‘เศรษฐา’ ขอให้อดใจรอปมจะลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ควบแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ บอกไม่อยากกดดันพรรค ขอทำหน้าที่เสนอนโยบายของพรรคต่อประชาชนก่อน ด้าน ‘สนธยา’ ไม่หวั่นฝั่งตรงข้ามสาดกระสุนทางการเมือง ลั่นมีประชาชนเป็นเสื้อเกราะ เชื่อกวาด ส.ส.ให้ ‘เพื่อไทย’ ยกจังหวัดชลบุรีแน่ ขณะที่ ‘ชลน่าน’ เผย ‘ประยุทธ์’ ขอประชุม ครม.นัดสุดท้ายก่อนประกาศยุบสภาฯ

วันที่ 18 มี.ค. 2566 ที่ โรงแรม Wheeler Bed and Bike อ.เมือง จ.ชลบุรี นายสนธยา คุณปลื้ม อดีต รมว.วัฒนธรรม และแกนนำกลุ่มเรารักชลบุรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ ยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยในจังหวัดชลบุรีว่า เป็นผลงานของทีมชลบุรีที่ผ่านมา ซึ่งเคยมีตั้งแต่ พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย โดยทางกลุ่มเรารักชลบุรีนั้นก็เคยเป็นทีมเดียวกันกับพรรคไทยรักไทยเมื่อปี 2548 ในช่วงที่ผ่านมาก็มีเรื่องผลงานที่จับต้องได้ ทำให้เรามั่นใจว่าในการขับเคลื่อนครั้งนี้ด้วยนโยบายใหม่ของพรรคเพื่อไทยที่เพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา และแรง ขับเคลื่อนของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี 10 คนที่ไดัคัดเลือกมาแล้ว ดังนั้นจึงมั่นใจว่าการเลือกตั้งรอบนี้พรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์และกวาด ส.ส.ยกจังหวัดชลบุรี

เมื่อถามว่าในพื้นที่จังหวัดชลบุรี บ้านใหม่ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัสหรือไม่ นายสนธยา ระบุว่า คู่แข่งก็คือคู่แข่ง ตนถือว่าในส่วนการเลือกตั้งอยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจเลือกใครไปทำหน้าที่ผู้แทน เขาไม่ได้ดูหัวโขนหน้าตาหรือนิทานเรื่องเล่าต่างๆ แต่ประชาชนจะดูเรื่องความจริงและความจริงใจ สิ่งที่ทำให้เห็นว่าเป็นภาพลวงตาหรือภาพจริง ซึ่งตนก็มั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะสู้อย่างเต็มที่ พร้อมด้วยนโยบายพรรคและผู้สมัคร

เมื่อถามว่าเป็นกังวลหรือไม่ว่าอาจจะทำให้พรรคก้าวไกลคว้า ส.ส.อีก นายสนธยา ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งก่อนเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบพรรค ถ้าหากไม่มีการยุบพรรคไทยรักษาชาติจะทำให้ผลการเลือกตั้งใน จ.ชลบุรีจะเป็นอีกแบบหนึ่ง

“ในวันนี้ใช้อำนาจรัฐใช้อำนาจบางอย่างมาข่มขู่ ให้แตกแยก เหลื่อมล้ำใน จ.ชลบุรี พรรคเพื่อไทยเราหัวใจคือประชาชน เราไม่มีแบ่งพวกแบ่งข้างพวกใครพวกมัน เราถือว่าเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน ทีมชลบุรีเป็นหนึ่งในทีมพรรคเพื่อไทย หัวใจเราคือประชาชน เราคิดว่าประชาชนสำคัญสุด”

เมื่อถามว่านอกจากกระแสของตัวผู้สมัครแล้วก็ยังมีเรื่องกระสุนของในตัวผู้สมัครด้วย นายสนธยา กล่าวว่า “เราใส่เสื้อเกราะ ไม่กลัวหรอกครับกระสุน กระสุนทางการเมือง เรามีเกราะคุ้มกันทางการเมืองก็คือประชาชน”

ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานคณะที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.ชลบุรี เพื่อปราศรัยหาเสียงให้กับพรรคเพื่อไทย ว่า ตนยังไม่ชิน เพราะยังเป็นก้าวใหม่ในชีวิต เมื่อก้าวเข้ามาก็ยังเป็นน้องใหม่ ส่วนกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิฏ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย จะขุดคุ้ยนั้น ตนมาอยู่ตรงนี้แล้วก็มั่นใจว่า เราทำเพื่อประชาชน จะบอกว่าไม่กลัวเลยก็ไม่เชิง

เมื่อถามถึงกรณีนายเศรษฐาจะลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีราชื่อ พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า ให้อดใจรอสักพักหนึ่ง วันนี้ตนมา จ.ชลบุรี เพื่อให้กำลังใจกับผู้สมัคร ส.ส. ส่วนการเป็น ส.ส.ควบคู่ในการเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ตนเชื่อว่า ฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารควรจะแยกออกจากกัน แต่เมื่ออยู่ฝ่ายบริหารแล้วก็ต้องรับผิดชอบต่อรัฐสภาด้วย

ถามย้ำว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยให้เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกฯ พร้อมกัน นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าอย่าเพิ่งไปพูดอย่างนั้นเพราะจะเป็นการกดดันผู้บริหารพรรค ให้ตนได้ ทำหน้าที่ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยก่อนและวันนี้ก็มานำเสนอนโยบายกับคนในจังหวัดชลบุรีได้ทราบ รวมถึงตำนานที่ครอบครัวนายสนธยาได้ทำมาหลายสิบปี มีประชาชนเป็นเกราะ เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ทำให้ จ.ชลบุรี ทั้งนี้ตนขอทำหน้าที่ในวันนี้ให้ดีที่สุดก่อนในวันต่อวัน ขอให้ทำทีละขั้นก่อน

ถามถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยประกาศหากกาวแคนดิเดตนายกฯ คนหน้าเก่าอยู่มา 8 ปี และคนหน้าใหม่ก็ไม่มีประสบการณ์ นายเศรษฐา กล่าวว่า นายอนุทินเป็นนักการเมืองอาวุโสคร่ำหวอดอยู่ในวงการการเมืองมานาน ท่านพูดอะไรมาตนก็รับฟัง พรรคเพื่อไทยใช้นโยบายนำมาตลอดตั้งแต่ไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย อย่างล่าสุดมีผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้ถามพรรคเพื่อไทยทำงานเป็นครอบครัวหรือไม่ ดูแผงผู้สมัครที่นั่งบนเวทียืนยันว่าพรรคเพื่อไทยทำงานกันเป็นทีม โดยมีผู้สมัครที่มีคุณภาพเพื่อให้ประชาชนพิจารณา ตนไม่ได้ปฏิเสธว่ามีประสบการณ์หรือไม่มีประสบการณ์ ตนขอให้ไปถามนายอนุทินเอง

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ถามกลับนายอนุทินว่า ต้องถามว่าประสบการณ์อะไร ถ้าถามว่านายอนุทินเคยมีประสบการณ์นายกฯ หรือไม่นั้นก็คงต้องถามกลับด้วย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการประกาศยุบสภาฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ควรประกาศให้ชัดเจนจะเป็นวันใดหรือไม่ นพ.ชลน่าน ระบุว่า จริงๆ นายกฯก็เตรียมประกาศวันยุบสภาฯอยู่แล้ว เท่าที่ทราบข่าวมาขณะนี้มีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) อยู่แล้วแต่อยู่ในขั้นตอนการลงสนามรับสนองพระบรมราชโองการและประกาศในราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น ซึ่งวันที่เหลืออยู่จะเป็นวันที่ 20-22 มี.ค.นั้น มีข่าวหลายกระแสบอกว่าจะเป็นวันที่ 20 มี.ค.นี้ แต่ตนได้ฟังจากรัฐมนตรีที่ใกล้ชิดโดยจะประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดสุดท้ายอีก 1 วันในวันที่ 21 มี.ค. หรืออาจจะประชุม ครม.แล้วก็ประกาศยุบสภาฯ ก็ได้ ตอนนี้ตนไม่กังวลว่าจะมีการประกาศยุบสภาในวันใด เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะมีการเลือกตั้งแน่นอน ในวันที่ 14 พ.ค. 2566