‘เศรษฐา’ นำทีมเพื่อไทยคุยผู้ประกอบการธุรกิจจ.ชลบุรี ยันเพื่อไทยขอจดทุกปัญหา พร้อมถกหาทางแก้ก่อนดันออกเป็นนโยบาย “ชลน่าน” ลั่น เขียนไว้หมด รอแค่เป็นรบ.แล้วเข้าไปทำ
เวลา 14.20 น. วันที่ 18 มีนาคม ที่จ.ชลบุรี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย นายสนธยา คุณปลื้ม นางสุกุมล คุณปลื้ม และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรคเพื่อไทย ร่วมพูดคุยกับผู้ประกอบการนักธุรกิจในจังหวัดชลบุรี เพื่อพูดคุยในประเด็นการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม และการสนับสนุนจากภาครัฐ
โดยตัวแทนสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี สะท้อนความเห็นซึ่งสรุปประเด็นสำคัญได้แก่ ภาคอุตสาหกรรมของชลบุรี ในฐานะเมืองอีอีซี ต้องการให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ ซึ่งเชื่อว่าถ้าเพื่อไทยได้ 350 เสียงจะมีเสถียรภาพมาก และจะนำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบายต่างๆรวมไปถึงการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติให้สอดคล้องกับสถานการณ์ นอกจากนี้ จ.ชลบุรีมีผู้ประกอบการ SME มาก แต่ติดขัดเรื่องกฎหมาย และข้อกำหนดต่างๆ หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลขอให้นำนโยบายต่างๆ ที่ได้ประกาศไปมาปฏิบัติเพื่อให้เห็นผลได้จริง เกี่ยวกับการสนับสนุน SME รวมถึงอยากขอให้มีนโยบายในการส่งเสริมการค้า การลงทุน ให้เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้อยากถามถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับเรื่องการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซึ่งที่ผ่านมาทำรายได้อย่างมากให้กับประเทศ ในฐานะที่ชลบุรีเป็นเซ็นเตอร์ของอีอีซี พรรคเพื่อไทยจะมีแนวทางในการดึงดูดนักลงทุนอย่างไร รวมไปถึงนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ปริญญาตรี 25,000 บาทนั้น ในชลบุรีไม่มีผู้ประกอบการใดสามารถทำได้เลย เพราะอย่างที่ทราบผู้ประกอบการจะให้ค่าแรงตามฝีมือ หรือสกิลของแรงงาน ดังนั้น ท่านต้องพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อให้ได้รับการจ้างงานในตัวเลขที่สูงขึ้น
ตัวแทนหอการค้าจ.ชลบุรี ระบุว่า รัฐบาลประกาศให้ชลบุรีเป็นเขตอีอีซี แต่ที่ผ่านมาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ และสนามบิน ล่าช้าเกินไปทำให้ชลบุรียังไม่ได้ประโยชน์จากตรงส่วนนี้เท่าที่ควร และเมื่อมองหาการลงทุนท่านมักมองไปที่เงินลงทุนจากต่างชาติ ไม่ได้มองเงินลงทุนในไทย ซึ่งเมื่อต่างชาติเข้ามาลงทุนเขาก็ได้เอาช่างฝีมือ และแรงงานบางส่วนของเขาเข้ามาด้วย การจ้างแรงงานไทยที่มีสกิลจึงไม่ค่อยเกิด ทั้งการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ เช่น จีน ทำให้ต้องนำเข้าทั้งวัตถุดิบจากเขาด้วย และเมื่อมีแรงงานเข้ามาในพื้นที่มากก็สัมพันธ์กับการรักษาพยาบาล ตรงนี้ภาคเอกชนมองเห็นเป็นโอกาสในการเข้ามาตั้งโรงพยาบาลในพื้นที่ แต่พื้นที่กลับขาดโรงพยาบาลรัฐที่จะทำให้แรงงานไทยที่ใช้ประกันสังคมเข้าถึงได้ สุดท้ายคือเรื่องการศึกษาเราใน 8 ปีที่ผ่านมาตกต่ำมาก อีอีซีบอกให้อัพสกิล รีสกิล แต่หากไม่มีความรู้พื้นฐานจะอัพสกิล รีสกิลอย่างไร ตรงนี้ทำให้ต้องนำเข้าแรงงานต่างชาติมากขึ้นเพราะคนของเราขาดสกิล เราจึงย้อนกลับมาถามว่า จริงๆแล้วเราได้ประโยชน์จากอีอีซีจริงหรือไม่ วันนี้ประชาชนฝากมาว่า เขาอยากกินดี อยู่ดี มีความสุข ต้องทำอย่างไร วันนี้เงินไม่ค่อยสะพัดในชุมชน ตนขอให้มีโปรตั๋วเครื่องบินฟรี หรือลดราคาตั๋วเครื่องบินให้คนเอเชียที่เข้ามาในเมืองไทย โดยมีข้อแม้ว่าต้องเข้าไปเที่ยวชุมชนวันละ 1 ชุมชน ,ขอให้ช่วยเหลือเรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะเครื่องฟอกไต เพราะวันนี้คนเป็นโรคนี้กันมาก , อยากให้ผู้สูงอายุที่มีกำลังมีงานทำ โดยออาจจะมีนโยบายลดภาษีให้กับบริษัทที่จ้างงานผู้สูงอายุก็ได้
สมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง-ชลบุรี ระบุว่า อยากให้มีการทำจุดพักคิว 100% หากรถมากหนาแน่นก็อยากให้เปิดลานสำรองอย่างเต็มรูปแบบ และอยากให้มีการพัฒนาระบบอีเพลย์เม้นซึ่งก็ยังไม่สำเร็จไปในทางที่ดี รวมถึงอยากให้ท้องถิ่นเข้ามากำกับดูแลเรื่องใบอนุญาตแบบปีต่อปี และอยากให้ลดค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ให้แพงกว่ารถยนต์ส่วนบุคคลไม่มากเพื่อแบ่งเบารถให้ลงในแยกต่างๆได้ การจราจรก็จะไม่ติดขัดด้วย
ผู้แทนกลุ่มประมง ระบุว่า รัฐบาลเอาใจไอยูยูจนทำให้ประมงพื้นบ้านของเราล้มหายตายจาก
ตัวแทนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า ทางกลุ่มไม่ได้ห่วงเรื่องการปล่อยกู้ แต่ห่วงเรื่องหนี้ครัวเรือน และห่วงเรื่องดอกเบี้ยที่สูง เพราะธุรกิจอสังหาฯมีต้นทุนที่สูง ทำให้อสังฯหาไปต่อยาก ดังนั้น จะต้องทำอย่างไรให้คนมีรายได้เพิ่มเพื่อมีกำลังซื้อบ้านได้
นพ.พรหมมินทร์ กล่าวว่า ต้องขออภัยที่นโยบายและอุตสาหกรรมของเรายังไม่ชัดเจน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มี คณะทำงานของพรรคเพื่อไทยเรามาจากภาคธุรกิจมาก่อน ดังนั้นท่านไม่ต้องกังวลว่าเราจะไม่ดูแลในส่วนนี้ พวกเราเข้าใจดีว่า ตลาด เป็นเรื่องที่สำคัญเราจึงเสนอตัวทำหน้าที่เป็นเซลล์แมนให้ เราจะติดต่อหาตลาดทุกคนมีโอกาสนำสินค้าออกไปขาย และมีแนวคิดที่จะพัฒนา product เช่น การแปลรูปอาหารที่ปรุงรสชาติแล้วส่งออก นอกจากนี้ เรามีการวางแผนใช้ E-Commerce เชื่อมผู้ประกอบการกับผู้บริโภค,ผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ,ผู้บริโภคกับผู้บริโภค,ผู้ประกอบการกับภาครัฐ และภาครัฐกับ ประชาชนเพื่อให้การติดต่อเพื่อการค้า และการบริการรวดเร็วขึ้น ทั้งยังทำให้โปร่งใส และตรวจสอบด้วย โดยเราต้องผนึกกับภาคเอกชนในการหารายได้ ผู้ว่าราขการจังหวัดจะถูกกำหนด KPI เพื่อประเมินการทำงานของผู้ว่าฯในการพัฒนาเศรษฐกิจในจังหวัดอย่างไร เป็นต้น
ด้านนายเศรษฐา กล่าวว่า เราจะมีโครงการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรคซึ่งจะทำให้เราดูแลผู้ป่วยโรคไต และโรคต่างๆได้อย่างครอบคลุม ส่วนการจ้างงานคนพิการ และผู้สูงอายุเรามีแนวทางเรื่องการงดเว้นภาษีได้ ขณะที่การแจกตั๋วเครื่องบินนั้นวันนี้ประเทศไทยติดปัญหานิดเดียวตรงที่เครื่องบินที่จะเข้ามานั้นไม่มี เราต้องมีเครื่องบิน และมีการเตรียมความพร้อมเมื่อมีการดึงคนเข้ามา ซึ่งการเจราจาเพื่อยกระดับหนังสือเดินทางไทยก็สำคัญมากเพื่อให้ง่ายต่อการเดินทางมา ประเด็นต่อมาคือ การกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เราได้มีการประการประกาศนโยบายเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตให้คนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป และต้องใช้ภายใน 6 เดือนในพื้นที่นั้นๆไปแล้วเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ สำหรับ SME ต้องได้รับการผลักดันอย่างมาก แบงค์และรัฐบาลต้องเดินมาเจอกันครึ่งทาง ถ้าแบงค์ประเมินแล้วว่าควรใส่ 5 แสนบาท รัฐใส่เพิ่มอีก 5 แสนบาท ก็จะสามารถช่วยต่อลมหายใจ SME ได้โดยการแบกความเสี่ยงกับรัฐคนละครึ่งทางซึ่งเรื่องนี้ตนจะนำไปเสนอให้คณะกรรมการนโยบายของพรรคต่อไป
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการขนส่งเราจะให้ทางพื้นที่รวบรวมข้อมูลที่สะท้อนมานี้แล้วนำไปประสานต่อ ส่วนเรื่องประมง เรามีผู้รับผิดชอบเรื่องนี้คือ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ดดยเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก และเราได้ประกาศนโยบายเรื่องนี้ไปแล้ว ซึ่งไอยูยูเป็นเรื่องแรกที่เราต้องแก้ปัญหา ขณะที่เรื่องอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้าจีดีพีโตเท่าไหร่ อสังหาฯจะโตควบคู่กันไปด้วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยเราชัดเจนว่าจะทำให้จีดีพีโตใน 4 ปี เฉลี่ย 5% เราเชื่อว่าเราทำได้ และอสังหาฯจะโต 5-10% อย่างแน่นอน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สำหรับผู้ประกอบการ SME เราเข้าใจเรื่องใต้โต๊ะ การทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งถ้าจะแก้เรื่องนี้เราต้องแก้ที่พฤติกรรมบุคคล กับแก้โครงสร้างระบบ ตนมองว่าการแก้พฤติกรรมคนนั้นยากมาก ต้องแก้ที่ระบบจึงจะแก้ได้ เราต้องลดการใช้ดุลพินิจของบุคคลลง และทำให้กระบวนการตรวจสอบสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน พรรคเพื่อไทยมีแนวทางในการวางนโยบายจากการเอาปัญหาที่ประชาชนได้รับผลกระทบมากที่สุดมาทำเป็นนโยบายเพื่อตอบสนองกลับลงไป ดังนั้น สิ่งที่ท่านพูดทั้งหมด พวกเรามีนโยบายที่เขียนไว้แล้ว รอเพียงได้เป็นรัฐบาลแล้วเขาไปขับเคลื่อนเท่านั้น