‘ส.ส.ปราจีนฯ เพื่อไทย’ แนะรัฐดูกรณีศึกษาออสเตรเลียรับมือ ‘ซีเซียม 137’หาย จี้เร่งค้นหาให้พบทั้งหมด ปรับการสื่อสาร ปชช.ให้ชัดกว่านี้
นายคงกฤช หงษ์วิไล ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีวัตถุกัมมันตรังสี ‘ซีเซียม-137’ สูญหายไปจากโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่ง ในอำเภอศรีมหาโพธิ์ จังหวัดปราจีนบุรี และพบซีเซียม 137 ในโรงงานหลอมเหล็ก อำเภอกบินทร์บุรี ว่า ได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และทราบว่าขณะนี้ทางโรงงานได้ดำเนินการปิดกั้นพื้นที่โรงงานและกักตัวพนักงานที่สัมผัสใกล้ชิดกับวัตถุดังกล่าว
ทั้งนี้ มองว่า การรับมือของรัฐบาลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ดีเพียงพอ เหมือนวัวหายล้อมคอก เนื่องจากซีเซียม 137 เป็นวัตถุกัมมันตรังสีซึ่งเป็นสารอันตราย แม้จะบอกว่ามีปริมาณเพียงเล็กน้อย แต่ก็ควรได้รับการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดที่สุด และหากเกิดการสูญหาย ต้องดำเนินการค้นหาให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน เพราะวัตถุกัมมันตรังสีซีเซียม 137 ถือเป็นสารอันตรายต่อชีวิตพี่น้องประชาชน จึงควรมีมาตรการป้องกันความปลอดภัยอย่างรัดกุม ตนไม่เข้าใจว่ารัฐบาลปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร เหมือนเอาประชาชนคนปราจีนบุรีไปเสี่ยงอันตราย ยิ่งกรณีนี้สารดังกล่าวได้หายไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะมีการแจ้งให้ทางการรับทราบ ถือเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง แสดงให้เห็นว่าการควบคุมและบังคับใช้กฎหมายยังหละหลวม ไม่มีความเข้มงวดเพียงพอ
นายคงกฤช ยังกล่าวด้วยว่า กรณีเช่นนี้เคยเกิดขึ้นที่ออสเตรเลีย พบซีเซียม 137 ขนาด 8×6 มิลลิเมตร สูญหายระหว่างการขนส่งเพื่อนำไปใช้วัดความหนาแน่นของแร่เหล็กในอุตสาหกรรมเหมือง ระยะทางขนส่ง 1,400 กิโลเมตร ทันทีที่ทราบว่าสูญหาย ทางการออสเตรเลียตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นโดยละเอียด บอกความอันตรายของสารที่หายไป มีพื้นที่ใดที่ต้องอพยพบ้าง จากนั้นระดมเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องมือตรวจจับ ปูพรมค้นหา ใช้เวลาทั้งสิ้น 6 วันก็พบซีเซียม 137 ที่หายไป ในระหว่างการค้นหา มีการรายงานความคืบหน้าเป็นระยะๆ เมื่อประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่ชัดเจน ถูกต้อง ความตื่นตระหนกก็หายไป
“ผมคิดว่า หน่วยงานของรัฐต้องออกมาเป็นแกนนำในการดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่สามารถบอกให้ประชาชนดูแลตัวเองได้ เพราะสารนี้อันตรายมาก ต้องระดมหน่วยงานเร่งหาสารกัมมันตรังสี หลักการสื่อสารสำคัญมากในตอนนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน” นายคงกฤชกล่าว