ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย เดินหน้าทำงาน ถกปัญหาประเทศต่อเนื่อง เน้นสร้างรายได้ประชาชนทุกกลุ่ม

( 1 มิถุนายน 2566 ) คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นำโดย นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานกรรมการ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานกรรมการ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ที่ปรึกษา ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษา ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษา และกรรมการด้านเศรษฐกิจ เช่น นายชัย วัชรงค์ ​​กรรมการ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ​​กรรมการ นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ ​กรรมการ นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ ​​กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ร่วมประชุมหารือในประเด็นเศรษฐกิจ อย่างต่อเนื่อง

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมการ เลขานุการ และโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ได้หารือเพื่อเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยประเด็นสำคัญที่เป็นแรงผลักในการขับเคลื่อนประเทศ ใน 5 ประเด็นหลักได้แก่

1.การส่งออก พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการหาตลาดใหม่ โดยเน้นที่ตลาดกลุ่มตะวันออกกลาง รวมทั้งการสร้างสินค้าและบริการ ให้ตรงกับความต้องการของตลาด ดูแลค่าค่าเงินบาทให้คงตัว เพื่อส่งเสริมรายได้จากการส่งออกจากประเทศ เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศในระยะสั้น

2.การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ หรือ (Foreign direct invesment : FDI) ต้องดำเนินการด้วยความยืดหยุ่นสูง และมีความชี้เฉพาะในตัว ด้วยมาตรการที่ตอบโจทย์ตรงกับความต้องการของนักลงทุนรายอุตสาหกรรม และนักลงทุนรายประเทศ พร้อมเน้นย้ำไม่มีมาตรการตัดเสื้อโหลให้ทุกคนพึงพอใจ เหมือนอย่างเป็นปัญหาในปัจจุบัน

3.หนี้เอสเอ็มอี หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือหนี้เสีย (NPL) สูงขึ้นคิดเป็น 20% หรือเป็นเอสเอ็มอีจำนวน 1 ใน 5 กำลังประสบปัญหาหนี้ ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในอนาคต พรรคเพื่อไทยมีความหังวลในเรื่องนี้ ดังนั้นนวัตกรรมทางการเงิน และวิศวกรรมทางการเงิน จะเข้ามาตอบโจทย์และแก้ปัญหาเอสเอ็มอี รวมถึงการใช้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐช้อนหนี้จากสถาบันการเงิน เพื่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงสินเชื่อได้

4. สังคมสูงวัย เป็นปัญหาระยะยาวและระยะสั้นที่ต้องรีบแก้ไข ซึ่งทีมเศรษฐกิจเพื่อไทยมองใน 2 มิติ คือ ปัญหา และโอกาส โดยในส่วนของปัญหา คือ แรงงานลดลงและผู้สูงอายุมากขึ้น ทำให้รายได้ลดลง รายจ่ายมากขึ้น หากเป็นอย่างนี้ต่อไปหมายความว่ากำลังเดินไปสู่ทางตัน แก้ไขได้ใน 2 มิติคือ ต้องเพิ่มจำนวนแรงงาน และอัตราการเกิด และการเพิ่มผลิตภาพแรงงานให้สูงขึ้นและเก่งขึ้น ในส่วนของโอกาส คือ กำลังซื้อจากคนชรา ต้องคิดค้นการสร้างรายได้จากกำลังซื้อกลุ่มนี้ ด้วยศูนย์กลางทางการแพทย์ ศูนย์กลางอาหารออร์แกนิค ศูนย์กลางการท่องเที่ยวและพำนักระยะยาว

5.ระบบภาษีที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย ต้องไม่กระทบต่อภาคการลงทุน และไม่ทำให้เศรษฐกิจหดตัวหรือเดินช้าในระยะยาว ที่เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจ

ดร.เผ่าภูมิ กล่าวว่า ประเด็นต่างๆ จะนำไปคุยกับแกนนำพรรคร่วม และพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อหาจุดลงตัวสำหรับประชาชนทุกคน โดยในการประชุมร่วมกับคณะกรรมการเปลี่ยนผ่าน ในสัปดาห์หน้า พรรคเพื่อไทยจะพูดคุยในนโยบาย หลัก ยอมรับว่ามีความแตกต่าง ซึ่งต้องหาจุดลงตัว ส่วนนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ต้องใช้งบประมาณ 560,000 ล้านบาท ในขณะที่นโยบายพรรคแกนนำก็ใช้เงินเท่ากันในนโยบายรัฐสวัสดิการ ซึ่งต้องเป็นไปตามพรรคแกนนำเป็นหลัก ดังนั้นนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของพรรคเพื่อต้องชะลอไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนว่าพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะรีดภาษีมากกว่าการหารายได้เข้าประเทศ ดร.เผ่าภูมิ กล่าวว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ขอก้าวล่วง ในมิติของนโยบายพรรคการเมืองอื่น เพราะทุกนโยบายมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน นโยบายของพรรคเพื่อไทยเราชัดเจนในนโยบายทุนนิยมที่มีหัวใจ เศรษฐกิจโตเท่าเทียม เศรษฐกิจโตสูง และโตเท่าเทียม