ล้างโคลนน้ำท่วม เสร็จตามแผน Quickwin คืนพื้นที่ให้เชียงราย 28 ต.ค.นี้

นายกฯ ขอบคุณ รายงานภารกิจ Quick Win เชียงรายแล้วเสร็จตามเป้า ทยอยส่งมอบพื้นที่ให้ประชาชนได้ภายใน 28 ต.ค.นี้  ด้าน ศปช.ยันข่าวลือเขื่อนแม่มอกลำปางน้ำล้นไม่จริง ชาวสุโขทัยไม่ต้องกังวล

นายกรัฐมนตรี ขอบคุณ ศปช. รายงานภารกิจ Quick Win เชียงรายแล้วเสร็จตามเป้า ทยอยส่งมอบพื้นที่ให้ประชาชนได้ภายใน 28 ต.ค.นี้  ด้าน ศปช.ยันข่าวลือเขื่อนแม่มอกลำปางน้ำล้นไม่จริง ชาวสุโขทัยไม่ต้องกังวล ขณะที่พายุจ่ามีขึ้นฝั่งเวียดนามส่งผลมีฝนอีสานสัปดาห์นี้

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. และ ศปช. ส่วนหน้า เปิดเผยว่า นายสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอบคุณ เจ้าหน้าที่ ศปช.ทุกท่านทุกระดับ ที่ทำงานอย่างหนักในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช. ได้รายงานว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ พร้อมมอบหมายให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะที่ปรึกษา ศปช.ส่วนหน้า ลงพื้นที่ติดตามและกำกับการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผนดังกล่าว 

โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ปรึกษา ศปช. ส่วนหน้า และ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะ ผอ.ศปช.ส่วนหน้า ยังคงประจำการอยู่ที่จังหวัดเชียงราย และได้รายงานต่อที่ประชุม ครม. ผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์  ถึงความคืบหน้าในระยะเร่งด่วน (Quick Win ) ที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่จังหวัดเชียงรายได้ดำเนินการล้างทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่อำเภอเมืองไปแล้ว 1,367 ครัวเรือน ส่วนที่อำเภอแม่สาย เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้เข้ากำจัดโคลนพร้อมล้างทำความสะอาดบ้านเรือนแล้วเสร็จทั้งหมด 819 ครัวเรือนแล้ว ยังคงเหลือพื้นที่สาธารณะบางส่วนที่อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการ

“ในภาพรวมได้กำจัดโคลนออกจากบ้านทั้งหมด ทำให้บ้านเรือนประชาชนมีความพร้อมในการเข้าอยู่อาศัย แต่ยังมีบางหลังที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง ซึ่งกำลังซ่อมแซมในเชิงโครงสร้างและระบบไฟฟ้า  คาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่ได้ภายในวันที่ 28 ตุลาคมนี้” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า จากฝนที่ตกต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท เพิ่มขึ้น 100 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนสูงขึ้นจาก 16.13 ม.รทก. เพิ่มเป็น 17.07 ม.รทก. หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 80 ซม. ทำให้ต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนจาก 1,300 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,400 ลบ.ม./วินาที เพื่อลดผลกระทบพื้นที่เหนือเขื่อน  ซึ่งการเพิ่มการระบายดังกล่าว  อาจทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำ ได้แก่ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ แม่น้ำน้อย ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา จะระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 20-30ซม.        

“ส่วนที่มีข่าวว่าระดับน้ำในเขื่อนแม่มอก ลำปาง น้ำล้นความจุอ่าง จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจของจ.สุโขทัย ทาง สทนช. ยืนยันว่าปริมาณน้ำดังกล่าวยังบริหารจัดการได้ และยืนยันกับ ศปช.ว่าจะไม่เกิดผลกระทบต่อชาวจังหวัดสุโขทัยอย่างแน่นอน” 

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ฝนที่กระจายตัวในหลายพื้นที่โดยเฉพาะตั้งแต่ตอนกลางของประเทศลงไปถึงภาคใต้ ในช่วงวันที่  23 – 28 ต.ค. 67 ทาง สทนช. ได้แจ้งเตือน 18 จว. ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังเป็นประจำ ซึ่งขณะนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ระดมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเตรียมความพร้อมในพื้นที่ 1,567 หน่วย หากเกิดเหตุสามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้ทันที

นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยายังจับตาพายุดีเปรสชันทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ ที่ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “จ่ามี” ซึ่งเคลื่อนตัวมาทางตะวันตกเรื่อย ๆ คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 26-27 ต.ค. 67 จากนั้นจะเริ่มลดความเร็วลง ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวอาจทำให้พื้นที่ภาคอีสานของประเทศไทยบางส่วนได้รับผลกระทบจากฝนตกและลมแรงในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี มุกดาหาร อำนาจเจริญ และศรีสะเกษ ระหว่างนี้ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของ สิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง” นายจิรายุ กล่าว