‘ภูมิธรรม เวชยชัย’​ เผย ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เตรียมดำเนินคดี​โฆษกพลังประชารัฐ​ หลังบอกคนเพื่อไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกรณีดิไอคอนกรุ๊ป รวมถึงประเด็นเกาะกูดด้วยว่า เป็นการใส่ร้ายป้ายสี และใช้จินตนาการกันมากไป 

วันที่ 31 ตุลาคม 2567  นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยเตรียมพิจารณาดำเนินคดี พล.ต.ท. ปิยะ​ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ที่กล่าวหาพาดพิงบุคคลภายในพรรคว่าเกี่ยวข้องกับคดี​ดิ​ไอคอน​กรุ๊ป​ โดยระบุว่า​ ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย​คงต้องพิจารณา​ เพราะช่วงนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์แบบไม่อยู่บนพื้นฐานของความจริง และหลายเรื่องเข้าข่ายลักษณะใส่ร้ายป้ายสี 

หากเกิดความเสียหายก็ต้องฟ้องร้องกันเพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน เพราะเวลานี้คนที่หยิบเรื่องมาสร้างประเด็นโดยไม่มีฐานข้อเท็จจริงมีหลายส่วนมาก อีกทั้งยังกล่าวหาพรรคหลายเรื่อง เช่น เรื่องการขายชาติ และหลายเรื่องยิ่งกว่าจินตนาการ ซึ่งฝ่ายกฎหมายคงต้องไปดูในรายละเอียด 

ดังนั้น หากมีหลักฐานให้เอ่ยชื่อผู้เกี่ยวข้องมาได้ เพราะที่เปิดเผยเป็นอักษรย่อก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยโดยตรง บางท่านได้ชี้แจงไปแล้ว เช่น​ อักษรย่อ​ ม. ซึ่ง นางมนพร​ เจริญศรี​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม​ ชี้แจงไปแล้วว่าดำเนินการตามหน้าที่​ หรืออีกคนที่เคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ลาออกไปนานแล้ว​ เอามาโยงกับพรรคเพื่อไทยไม่ได้ อย่าเอาทุกอย่างมาเป็นการเมือง ตนไม่มั่นใจว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นของตัวเองหรือไม่ จึงอยากให้พิจารณาให้ถ่องแท้ อะไรที่เกินเลยไปก็ต้องว่ากันตามกระบวนการกฎหมาย

เมื่อถามว่า เรื่องขายชาติก็ออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ มีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าการที่พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ร่วมรัฐบาล จึงออกมาโจมตีพรรคเพื่อไทยอย่างหนักนั้น นายภูมิธรรม​กล่าวว่า​ ตนไม่ได้บอกว่าออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ แต่มองว่าจินตนาการกันไปมาก หากเกี่ยวพันกับใครคนนั้นต้องรับผิดชอบ ขอให้ไปดูข้อเท็จจริง เราอยู่กับข้อเท็จจริง เราไม่กล่าวหาหรือโยนอะไรไปให้ใคร ใครพูดมาแล้วเกี่ยวข้องกับใคร หากฝ่ายกฎหมายดูแล้วข้อเท็จจริงนั้นคลาดเคลื่อนก็ดำเนินการตามกฎหมาย

ส่วนจะต้องพูดคุยกับบุคคลภายในพรรคที่ถูกพาดพิงหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่รู้ว่ารายละเอียดที่ถูกกล่าวหานั้นคืออะไร เป็นการพูดเลื่อนลอย ส่วนที่พูดถึงกลุ่มสามมิตรซึ่งอาจเชื่อมโยงกับนักการเมืองอักษรย่อ ส.​ นั้น ขอให้ไปว่ากันเอง เกี่ยวข้องกับใครก็ชี้แจงเอง แต่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เราทำหน้าที่อย่างเต็มที่

เมื่อถามย้ำว่า พรรคเพื่อไทยจะต้องตรวจสอบภายในหรือไม่ เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อสังคม นาย ภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่อยากเดาว่าเป็นใคร เช่น​ ส.​ หรือ ม. เป็นใคร เพราะมีเป็นร้อ​ย​ หากมีรายชื่อชัดก็ส่งหนังสือมาถึงพรรคได้ว่ามีพฤติกรรมอย่างไร​ เราจะตั้งกรรมการสอบและให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการตามขั้นตอน 

ส่วนเรื่องนี้จะส่งผลต่อความนิยมของพรรคหรือไม่ ภูมิธรรมถามกลับว่า​ จะส่งผลกระทบกับพรรคได้อย่างไร เพราะพรรคยังไม่ทราบว่าเป็นใคร​หรือเรื่องเป็นอย่างไร