นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งแรก สวมเสื้อลายพื้นเมือง จ.นราธิวาส “ลายนรารวมใจ” พบปะ พูดคุยกับผู้นำศาสนา ประชาชน พร้อมฝาก ศอ.บต. – หน่วยงานในพื้นที่นำ AI มาใช้ ประชาชนฝากขอบคุณนายกฯ ที่มาเยี่ยมเยือนถึงบ้าน
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งติดตามคณะฯ ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบปะนักศึกษาและผู้ปกครองที่เข้าร่วมมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ “มีอยู่ มีกิน มีใช้” จัดโดยกระทรวงยุติธรรม กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรมบังคับคดี และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดในพื้นที่ร่วมใจบูรณาการกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ กยศ. ที่มีปัญหาหนี้สินได้เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้และได้รับความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม โดยมุ่งสร้างความเป็นธรรม ช่วยลดภาระของลูกหนี้ พร้อมส่งเสริมการคืนหนี้เข้าสู่ระบบในรูปแบบที่ยั่งยืน มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัด ก.คมนาคม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่ ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ประชาชนชาวนราธิวาสหลายพันคนมารอต้อนรับ และตะโกนให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีสู้ ๆ พร้อมทั้งขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาเยี่ยมเยือนถึงบ้านที่จังหวัดนราธิวาส
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในพื้นที่ เช่น ผลิตภัณฑ์จากเรือนจำจังหวัดนราธิวาส รวมทั้งติดตามเยี่ยมชมบูธกิจกรรมการแก้ไขปัญหายาเสพติด ติดตามนโยบายรัฐบาลและรับฟังสรุปรายงานผลการดำเนินงานของ ศอ.บต. โดยเลขาธิการ ศอ.บต. ด้วย
นายกรัฐมนตรีรับชมการแสดงจากเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ชุดระบำลีลาชาชัก พร้อมกล่าวเปิดโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ “มีอยู่ มีกิน มีใช้” ตามนโยบายรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ได้มาพบกับประชาชนชาวนราธิวาสและขอบคุณที่ทุกคนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมกล่าวในนามของรัฐบาล ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามาไกล่เกลี่ยปรับโครงสร้างหนี้ เพราะเรื่องหนี้เป็นปัญหาที่เรื้อรังมายาวนานของประเทศไทย ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้และช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้ ทำให้ต้นทุนของประชาชนลดลง ทำให้มีแรงและกำลังในการจ่ายค่าครองชีพที่ถูกลง เพิ่มศักยภาพในการทำรายได้เพิ่มให้กับครอบครัวและตนเอง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง จึงขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันผลักดันในเรื่องนี้
ทั้งนี้ การผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจไทยเติบโตน้อยกว่าศักยภาพที่มีอยู่จริง เนื่องจากไทยเพิ่งจะเริ่มมีการลงทุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคตไม่นานเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่มีการลงทุนด้านอุตสาหกรรมแห่งอนาคตมามากกว่า ดังนั้น รัฐบาลจึงให้ความสำคัญในการผลักดันเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป โดยการสนับสนุนเรื่องของการศึกษาเพื่อพัฒนาคนในประเทศและผลักดันในด้านต่าง ๆ ทั้งเรื่องของการ Upskill และ Reskill ให้คนมีศักยภาพเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับธุรกิจและการจ้างงานใหม่ ๆ ที่จะเข้ามา ตรงนี้รัฐบาลได้เตรียมโอกาสไว้สำหรับประชาชนแล้วในเรื่องของการศึกษาที่ดีเพื่ออนาคตของประชาชน โดยขณะนี้รัฐบาลได้นำนโยบาย ODOS กลับมา เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกอำเภอทั่วประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย เพื่อจะมีโอกาสได้ไปเรียนที่ต่างประเทศ รวมถึงการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อมีโอกาสไปศึกษาที่ต่างประเทศ ขอให้ทุกคนเรียนรู้ในเรื่องของเทคโนโลยีและ AI ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างมากในอนาคต เพราะความรู้และวิชาต่าง ๆ ที่ประชาชนได้รับจะเป็นสมบัติติดตัวตลอดไป ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นและอยากสร้างให้เกิดขึ้นในเยาวชนทุกคน เพื่ออีก 10 ปี 20 ปี ข้างหน้าเราจะได้คนคุณภาพต่อไปเรื่อย ๆ การขยายโอกาสเป็นเรื่องสำคัญมาก รวมไปถึงการที่รัฐบาลมาดูในเรื่องของการแก้ไขปัญหาหนี้สินเป็นเรื่องพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรจะได้รับการดูแลในเรื่องนี้ ควบคู่กับการทำให้ประชาชนได้หารายได้เพิ่มให้กับตนเองและครอบครัว
จากนี้รัฐบาลจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสดี ๆ ให้กับประชาชนต่อไป ปีนี้เป็นปีแห่งโอกาส รัฐบาลจะพยายามทำให้พี่น้องประชาชนทุกได้รับโอกาสในทุก ๆ พื้นที่
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวฝากให้เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหารือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการหาแนวทางในการที่จะทำให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงการไกล่เกลี่ยปรับโครงสร้างหนี้โดยไม่ต้องเดินทางมายังจังหวัด โดยอาจจะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศหรือ AI เข้ามาช่วย เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการนี้ได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีเปิดโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ย ช่วยเหลือลูกหนี้ “มีอยู่ มีกิน มีใช้” ก่อนไปประชุมเร่งรัดติดตามความก้าวหน้างานด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ต่อไป
สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สวมเสื้อสูท “ลายนรารวมใจ” สีชมพูบานเย็น หวานฉ่ำ เป็นผ้าลายอัตลักษณ์ประจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งถ่ายทอดความเป็นหนึ่งเดียวของผู้คนชาวนราธิวาสที่มีความรักความสามัคคี ประสานความสัมพันธ์บนวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันงดงามของจังหวัดนราธิวาส
เวลา 13.20 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เร่งรัดติดตามความก้าวหน้างานด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้และติดตามโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก รวมถึงติดตามโครงการรถไฟทางคู่หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก และรับฟังบรรยายสรุปการจัดหลักสูตรเตรียมความพร้อมการผลิตกำลังคนด้านอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ที่ห้องประชุมสำนักงานอธิการบดี ชั้น 2 มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ผู้บริหารส่วนราชการจังหวัดนราธิวาส และผู้บริหารฝ่ายความมั่นคงจังหวัดนราธิวาสเข้าร่วม
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณส่วนราชการในการสรุปข้อมูลต่าง ๆ ในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งวันนี้ตั้งใจมาตรวจราชการเพื่อรับฟังปัญหาในพื้นจากคนในพื้นที่โดยตรง ว่ามีอะไรบ้างที่ส่วนกลางจะสามารถเร่งช่วยได้จริง ๆ ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เพราะท้องถิ่นสามารถดูแลประชาชนได้ดี และใกล้ชิดประชาชนมากกว่าส่วนกลาง ขอให้ท้องถิ่นช่วยดูแลประชาชนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า เรื่องของคมนาคมที่ทางจังหวัดนราธิวาสกำลังดำเนินการ ฝากให้ทางจังหวัดดูเรื่องระยะเวลาต้องไม่ล่าช้าเพราะจะเกิดทุนที่เพิ่มขึ้นโดยรัฐบาลพยายามประหยัดงบประมาณ แต่ก็ต้องการพัฒนาประเทศไปอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรณีการสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากการพูดคุยกับทางมาเลเซีย ได้ตกลงในความร่วมมือการจัดซื้อจัดจ้างร่วมกับทางมาเลเซียแล้ว คาดว่าจะเริ่มกระบวนการก่อสร้างในเดือนมีนาคม 2568 และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนมิถุนายนปีนี้ โดยคาดว่า จะเปิดให้บริการภายในปี 2570 สำหรับเรื่องงบประมาณในการก่อสร้าง ขอให้ทางจังหวัดประสานกับกระทรวงคมนาคมเร่งส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็ว พร้อมกับเน้นย้ำเรื่องของความปลอดภัยต่อชีวิตของประชาชนระหว่างการดำเนินก่อสร้าง โดยเฉพาะเส้นทางการสัญจรขอให้ติดป้ายเตือน กำหนดเส้นทางสัญจรให้ชัดเจน
ส่วนการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประชาชนจะได้รับประโยชน์ ถือเป็นการพัฒนาโครงการสาธารณะ ช่วยทำให้การขนส่งสินค้ารวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลพยายามนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาระบบขนส่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการส่งออกสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญอย่างมาก และเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตของจีดีพีของประเทศไทย ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาอย่างจริงจัง รวมทั้งหาข้อมูลประเทศเพื่อนบ้านที่เขามีความทันสมัยกว่าประเทศไทย นำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อสนับสนุนสินค้าการเกษตร ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นในทุก ๆ พื้นที่
เรื่องการศึกษา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากที่รับฟังรายงาน ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ตรงกับนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งสนับสนุนให้ทุนส่งเสริมเยาวชนไปเรียนต่อด้านอุตสาหกรรมในอนาคตจากต่างประเทศ ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีศักยภาพการศึกษาด้านเทคนิค แต่เทคโนโลยีถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ทั้งนี้ขอให้ศึกษาให้รอบคอบมากยิ่งขึ้นและขอให้ประสานงานกับต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เยาวชน นักศึกษาไทยมีโอกาสไปศึกษามากยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รัฐบาลต้องการพัฒนาการศึกษาให้เด็กและเยาวชนของไทยให้ก้าวหน้า มีความทันสมัย นำความรู้กลับมาสร้างประโยชน์ให้กับประเทศต่อไป
“ขอบคุณกำลังใจพี่น้องชาวใต้ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ฝากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ในการลงพื้นที่พบปะแก้ไขปัญหา และให้กำลังใจประชาชน พร้อมกับฝากบอกประชาชนว่า รัฐบาลยินดีที่จะสนับสนุน แก้ไขปัญหาทุกอย่างให้พี่น้องชาวใต้อย่างเต็มที่ ขอเน้นย้ำให้ส่วนราชการอย่าห่างเหินกับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการแก้ไขปัญหาในพื้นที่เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก อะไรที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนจะรอช้าไม่ได้” นายกรัฐมนตรี ย้ำ
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส มอบกระเป๋าถือรุ่น “banyai my bags” กระเป๋าสานกระจูดผสมใบลาน ปักภาพ “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร” ซึ่งผลิตโดย กลุ่มกระจูดบ้านใหญ่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยใช้เทคนิคงานปักซอย ภาพนายกรัฐมนตรี แบบไทย ซึ่งต่อยอดมาจากโครงการศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และปักข้อความ “Narathiwat” เพื่อมอบแทนคำขอบคุณนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางมาปฏิบัติราชการที่จังหวัดนราธิวาสในวันที่ 16 มกราคม 2568
เวลา 14.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบปะผู้นำศาสนาและนักเรียนโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ณ โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จ.ยะลา ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามขนาดใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีนักเรียนจำนวนประมาณ 6,000 คน เปิดสอนทั้งวิชาศาสนาและสามัญตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ เปิดสอนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีเป้าหมาย ในการพัฒนาทั้งด้านความรู้ทางวิชาการ การเรียนรู้ทางศาสนา ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเยาวชนในพื้นที่ โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำทางศาสนาในพื้นที่ นักเรียน บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนกว่า 7,000 คน เข้าร่วม
เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาบริเวณโรงเรียนตัวแทนนักเรียนได้ร้องเพลงมาร์ชประจำโรงเรียนต้อนรับ และนายกรัฐมนตรีได้โบกมือทักทายน้อง ๆ นักเรียนและร่วมถ่ายเซลฟี่อย่างเป็นกันเอง แม้บรรยากาศเต็มไปด้วยสายฝน แต่ก็ได้สร้างรอยยิ้มและความปลาบปลื้มให้กับน้อง ๆ นักเรียน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวสวัสดีผู้นำศาสนาอิสลามจาก 5 จังหวัดชายแดนใต้และประชาชนที่มารอต้อนรับพร้อมขอบคุณที่มาต้อนรับอย่างอบอุ่น ย้ำว่ารัฐบาลมีความตั้งใจตั้งมั่นและตั้งใจพัฒนาเยาวชนของไทยให้แข็งแรง เข้มแข็ง เต็มไปด้วยชีวิตที่มีโอกาส โดยเฉพาะโอกาสแห่งการศึกษา ซึ่งรัฐบาลต้องการที่จะให้กระจายไปทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย เพื่อน้อง ๆ ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับตนเองและสร้างรายได้หลักให้กับครอบครัว นอกจากนี้รัฐบาลจะเร่งขับเคลื่อน Soft Power อย่างเต็มที่ เพราะเล็งเห็นว่าแต่ละจังหวัดมีความพิเศษและอัตลักษณ์ต่างกัน
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าวันนี้เป็นวันครู ขอบคุณคุณครูที่บ่มสอนนักเรียนมาตลอด ซึ่งวันนี้ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องขอบคุณคุณครูในอดีตเช่นกัน เพราะเป็นรากฐานของความสำเร็จรากฐานของชีวิต ตลอดจนแนวคิดต่าง ๆ โอกาสนี้ นายกฯ เล่าถึงชีวิตในช่วงที่เป็นนักเรียนและนักศึกษา ทั้งการใช้ชีวิตที่โรงเรียนและมหาวิทยาลัย ได้เข้าใจว่าคุณครูคือส่วนสำคัญในการปั้นคนและสร้างลูกศิษย์ที่มีคุณภาพให้กับประเทศในอนาคต และได้กล่าวโอวาทแก่น้องๆ นักเรียนว่า ขอให้ตั้งใจเรียนและฟังคุณครู อย่าดื้อ ขอให้ทุกคนเป็นเด็กดี สดใส เติบโตสมวัย และมีโอกาสดี ๆ อีกมากมายในประเทศที่รัฐบาลจะต้องจัดสรรให้กับประชาชนทุกคน ขอบคุณชาวยะลาอย่างมากที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและทุกคนน่ารักมาก ๆ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเข้าห้องประชุมเพื่อรับชมการแสดงศิลปะการพูดประสานเสียงเป็นกลุ่ม (Choral speaking) จากตัวแทนนักเรียน ผ่านการพูดพร้อมกัน เคลื่อนไหวท่าทาง เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ โดยผสมผสานความหลากหลายทางวัฒนธรรมในพื้นที่ เช่น ภาษาไทย ภาษาไทยถิ่นใต้ หรือภาษามลายู (ยาวี) ภาษาอังกฤษ โดยน้อง ๆ เล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ และกิจกรรมโครงการต่าง ๆ ที่สำคัญภายในโรงเรียน พร้อมรับฟังรายงานการช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุทกภัยจากนายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างการฟื้นฟูที่อยู่อาศัย จ่ายเงินเยียวยาไปแล้ว 5 ครั้ง คิดเป็น 85.96% คาดจะครบถ้วนภายในวันที่ 31 ม.ค. 68
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าวันนี้มาติดตามการพัฒนาด้านคมนาคมและการขนส่งในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ด้านการเดินทางและการท่องเที่ยว รวมถึงการส่งเสริมการนำเข้าและส่งออกสินค้า ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ชื่นชมการแสดงของนักเรียนที่แสดงบนเวที ตลอดจนครูที่ฝึกสอนการแสดง ต้องใช้เวลาฝึกฝนอย่างมาก ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ขอให้ภูมิใจในตนเอง วันนี้รู้สึกประทับใจอย่างมาก แม้จะนั่งรับชมการแสดงเป็นเวลาสั้น ๆ แต่การแสดงก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดี ทำให้สามารถเข้าใจบริบทวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อมที่น้อง ๆ เติบโตขึ้นมา และอยากจะให้การแสดงดังกล่าวสามารถสร้างความประทับใจให้คนระดับโลกที่ได้ชม
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณผู้นำศาสนาทุก ๆ ท่าน ที่สอนเด็กเยาวชนให้เติบโตขึ้นมาอย่างเข้มแข็ง จิตใจแข็งแรง ซึ่งเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเชื้อชาติศาสนาใด ก็เป็นไทยด้วยกันมีความรักให้กัน รัฐบาลพร้อมสนับสนุนความสามัคคีและจะสนับสนุนประชาชนภาคใต้ในทุกมิติ ที่ส่วน ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น รัฐบาลมีแผนดูแลทั้งระยะสั้นระยะยาว ตรงไหนทำได้ก่อนก็ทำก่อน เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวลดลงเรื่อย ๆ
“ปีนี้รัฐบาลมั่นใจว่าเป็นปีแห่งโอกาสของประชาชนทุกคน เป็นปีที่ดีดังนั้น ขอให้ทุกคนมีความสุข เพราะรัฐบาลจะสนับสนุนทุก ๆ คนอย่างเต็มความสามารถและยินดีที่จะได้พบกันวันนี้” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการผลงานของนักเรียนโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิด้านต่าง ๆ ทั้งผลงานทางวิชาการ ผลงานทางศิลปะและสิ่งประดิษฐ์จากโครงการธนาคารขยะ ซึ่งนักเรียนสามารถนำไปต่อยอดสร้างมูลค่าและรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวด้วย พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในสมุดเยี่ยมเพื่อเป็นที่ระลึกและขวัญกำลังใจในโอกาสเดินทางมาพบปะผู้นำศาสนาและนักเรียนโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ อ.เมือง จ.ยะลา ด้วย
นายจิรายุ รายงานภารกิจนายกรัฐมนตรี พบปะ พี่น้องประชาชนและส่วนราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีซาบซึ้ง ในการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพี่น้องในจังหวัดชายแดนจังหวัดใต้ ระหว่างการลงพื้นที่ จุดแรกที่ จ.นราธิวาส ประชาชนจำนวนมากกว่า 3,000 คนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นตลอดระยะการเดินทาง โดยนายกฯ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการและได้แวะพบปะทักทายประชาชนที่มาร่วมงานอย่างเป็นกันเอง โดยประชาชนต่างดีใจที่ได้เห็นตัวจริง พร้อมชื่นชมในความเป็นกันเองของนายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นขวัญกำลังใจให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยนายกรัฐมนตรีที่เป็นสุภาพสตรี ลงพื้นที่มาตรวจราชการ ประชาชนต่างเข้ามาสวมกอดพร้อมกับขอถ่ายรูปเซลฟี่กับนายกรัฐมนตรีตลอดการเดินทักทายพบปะกับประชาชน สร้างความประทับใจให้กับพี่น้องประชาชนและข้าราชการในพื้นที่ ทำให้มีขวัญกำลังใจสร้างความประทับใจให้กับพี่น้องประชาชนและข้าราชการในพื้นที่มีขวัญกำลังใจมากขึ้น
ขณะที่ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาสได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่นายกรัฐมนตรีก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเดินทางไปพบพี่น้องประชาชนที่จังหวัดยะลา โดยยืนยันไม่เปลี่ยนแปลงกำหนดการ และนั่งเฮลิคอปเตอร์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปพบกับ น้อง ๆนักเรียนนักศึกษาที่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ผู้นำศาสนาและพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดยะลาต่อไป
พรรคเพื่อไทย #ภาคใต้ #ยะลา #นราธิวาส #ปัตตานี