‘17 ปี คิดฮอดหลายแท้’ ทักษิณ ปราศรัยศรีสะเกษ ปลุกพลังประชาชน ร่วมสานต่อภารกิจเพื่อความ ‘อยู่ดีกินดี’ ผุดไอเดีย ‘1 อำเภอ 1 กิจกรรม 1 วัฒนธรรม’ พลิกโฉมศรีสะเกษสู่เมืองท่องเที่ยว
วันที่ 25 มกราคม 2568 อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้รับการต้อนรับจากประชาชนกว่าสองหมื่นคนที่เดินทางมาร่วมรับฟัง พร้อมอ้อน ‘17 ปี คิดฮอดหลายแท้’ ยืนยันความมุ่งมั่นที่จะนำพาศรีสะเกษและประเทศไทยก้าวสู่ความเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งด้วยการเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้ เพื่อสร้างเอกภาพในการทำงานร่วมกับรัฐบาล
[มุ่งมั่นฟื้นฟูเศรษฐกิจ เติมเงินในกระเป๋าประชาชน]
.
ในเวทีแรกที่อำเภอปรางค์กู่ ดร.ทักษิณ กล่าวถึงช่วงเวลาที่ห่างหายไป 17 ปี และความตั้งใจกลับมาเป็น ‘สทร.’ ที่พร้อมจะทำงานเพื่อประชาชน ช่วยทำให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ผ่านการช่วยงานด้านต่างๆเพื่อประเทศ
.
อดีตนายกฯ ย้ำถึงความสำคัญของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่เตรียมเข้าสู่เฟส 2 และ 3 ภายในปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเติมเงินในกระเป๋าชาวบ้านให้กลับมาใช้จ่ายคล่องตัวเหมือนในยุครัฐบาลไทยรักไทย พร้อมยืนยันว่า “ที่สัญญาไว้ ทำหมด ไม่มีคำว่าโกหก”
.
นอกจากนี้ ยังให้ความมั่นใจว่าปี 2570 จะเป็นปีแห่งโอกาสที่คนไทยจะมีเงินจับจ่ายและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านนโยบายด้านเศรษฐกิจ เช่น โครงการ ‘คุณสู้ เราช่วย’ ที่จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยบ้านไม่เกิน 5 ล้านบาท ให้ประชาชนสามารถผ่อนต้นแบบสบายใจ
[‘1 อำเภอ 1 กิจกรรม 1 วัฒนธรรม’ พลิกโฉมศรีสะเกษสู่เมืองท่องเที่ยว]
.
ในส่วนของนโยบายท้องถิ่น นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย เบอร์ 1 นำเสนอแนวคิด ‘1 อำเภอ 1 กิจกรรม 1 วัฒนธรรม’ โดยชูจุดแข็งของจังหวัดศรีสะเกษที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เช่น วิถีชีวิตของชาวส่วย ที่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สร้างรายได้ให้ชุมชน นอกจากนี้ยังพร้อมผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและพลังงาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
.
ในด้านการศึกษาและกีฬา มีแผนพัฒนาระบบการศึกษาท้องถิ่นให้มีคุณภาพเทียบเท่ากรุงเทพฯ พร้อมสนับสนุนให้เยาวชนที่มีความสามารถด้านกีฬา ได้ฝึกฝนเพื่อสร้างรายได้ เช่น กีฬามวยที่สามารถสร้างนักกีฬาระดับแสนล้านบาท พร้อมพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อยกระดับศักยภาพของนักกีฬาในพื้นที่
[ขจัดปัญหาสังคม ยาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ หมดสิ้นในปีนี้]
.
ดร.ทักษิณ ยังประกาศนโยบายที่ชัดเจนต่อการจัดการปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ย้ำว่ายาเสพติดจะต้องหมดไปภายในปีนี้ ผ่านการดำเนินการที่เข้มข้น ไม่เว้นแม้แต่บ้านหรือทรัพย์สินของผู้ค้ายาเสพติด เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย ขณะเดียวกัน ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะถูกกวาดล้างอย่างเด็ดขาด โดยรัฐบาลจะร่วมมือกับธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อยับยั้งกลโกงเหล่านี้
[ขอแรงใจ ‘ประชาชน’ คือพลังของประเทศ]
.
ในเวทีปราศรัยสุดท้ายที่อำเภออุทุมพรพิสัย ดร.ทักษิณ อ้อนขอกำลังใจจากประชาชน พร้อมเผยความประทับใจต่อมิตรภาพและความอบอุ่นของชาวศรีสะเกษที่เขาไม่เคยลืม โดยย้ำว่า “พี่น้องคือเพชรที่ต้องเจียระไน” คนที่มีความสามารถต้องได้รับโอกาส เพื่อสามารถเลี้ยงดูครอบครัวและสร้างอนาคตที่ดี
.
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความตั้งใจที่จะทำงานให้ประชาชนต่อไปอีก 17 ปี เพื่อ ‘ใช้หนี้’ ที่ค้างคามานาน พร้อมเทียบตัวเองกับมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ยังคงมีพลังแม้ในวัย 92 ปี โดยดร.ทักษิณ ยืนยันว่าเขายังมีพลังเหลือเฟือ และพร้อมทำงานรับใช้ประชาชนต่อไป
[“เลือกเพื่อไทย = เลือกอนาคตที่ดีกว่า”]
.
ดร.ทักษิณ ทิ้งท้ายด้วยการขอให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย ทั้งนายก อบจ. และสมาชิกสภา เพื่อสร้างเอกภาพในการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งในเรื่องค่าไฟลดลงเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย บริการสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกที่ และโครงการช่วยเหลือผู้เป็นหนี้บ้านเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
“อย่าขี้เหนียวในการเลือกตั้ง เลือกให้หมด เลือกให้ขาด” ดร.ทักษิณ กล่าวปิดท้ายด้วยความมั่นใจ พร้อมขอแรงใจจากชาวศรีสะเกษ เพื่อให้วันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้ เป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงศรีสะเกษไปสู่อนาคตที่สดใสกว่าเดิม