‘สลักจฤฎดิ์’ มั่นใจ ไม่หวั่นกระแสข่าว ‘ใบแดง’ ชี้พรรคเพื่อไทยคัดกรองคุณสมบัติผู้ช่วยหาเสียงอย่างเข้มงวด เดินหน้าหาเสียงจนนาทีสุดท้ายอย่างมุ่งมั่นและตั้งใจ

นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย หมายเลข 2 ในนามพรรคเพื่อไทย ยืนยันไม่กังวลต่อกระแสข่าวที่อ้างว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้ช่วยหาเสียง ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้สมัครที่ได้รับการสนับสนุนจากนายทักษิณเสี่ยงต่อการได้รับ “ใบแดง”

.

กระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความระบุว่า ดร.ทักษิณขาดคุณสมบัติในการช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ซึ่งอาจกระทบต่อการเลือกตั้ง โดยมีนักร้องทางการเมืองหลายคนออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้

.

อย่างไรก็ตาม นางสลักจฤฎดิ์ให้สัมภาษณ์ว่า ตนไม่ได้รู้สึกกังวล เนื่องจากก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง ได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามระเบียบของพรรคมาอย่างเคร่งครัด และในกรณีของผู้ช่วยหาเสียงก็เช่นกัน พรรคได้พิจารณาอย่างละเอียดเพื่อให้ทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย

.

“ผู้ช่วยหาเสียงก็คือตัวแทนของพรรค มีหน้าที่ดูแลและสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในแต่ละจังหวัด ก่อนที่พรรคจะส่งใครลงสมัคร เราต้องผ่านการคัดกรองหลายขั้นตอน เช่นเดียวกับผู้ช่วยหาเสียง ที่ต้องได้รับการตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีปัญหาด้านคุณสมบัติ” นางสลักจฤฎดิ์กล่าว

.

เมื่อถูกถามว่าข่าวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงหรือไม่ นางสลักจฤฎดิ์แสดงความเชื่อมั่นว่า ข่าวลักษณะนี้จะไม่กระทบต่อการตัดสินใจของประชาชน เนื่องจากประชาชนให้ความไว้วางใจในพรรคเพื่อไทยและ ดร.ทักษิณ

.

“ประชาชนมั่นใจว่าอดีตนายกฯ ทักษิณ สามารถช่วยนำพานโยบายของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลไปขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราเชื่อว่า ข่าวที่ออกมาเป็นการกลั่นแกล้งหรือบิดเบือนข้อมูลเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคและผู้สมัคร แต่สุดท้ายประชาชนจะตัดสินใจจากผลงานและนโยบายเป็นหลัก” ผู้สมัคร นายก อบจ. เชียงรายกล่าว

.

สำหรับแนวทางการตอบโต้ข่าวดังกล่าว นางสลักจฤฎดิ์ระบุว่า ตนจะไม่ดำเนินการฟ้องร้องใด ๆ แต่ขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

.

ทั้งนี้ กระแสข่าวเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ช่วยหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง เป็นประเด็นที่ถูกจับตาอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยยังคงมั่นใจว่า ความเชื่อมั่นของประชาชนจะไม่สั่นคลอน และพรรคได้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดแล้ว

.

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ ยืนยันเช่นกันว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย แม้จะมีกระแสจากกลุ่มนักร้องที่ยื่นเรื่องร้องเรียนว่าขาดคุณสมบัติ

.

พรรคเพื่อไทยได้ศึกษาข้อกฎหมายและระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างรอบคอบก่อนให้ ดร.ทักษิณ เข้าร่วมช่วยหาเสียง โดยกฎหมายไม่ได้กำหนดคุณสมบัติผู้ช่วยหาเสียงไว้อย่างชัดเจน เพียงแค่ระบุว่าผู้ช่วยหาเสียงต้องเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่ไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตที่กำลังหาเสียง ดังนั้น ดร.ทักษิณ จึงไม่ขาดคุณสมบัติแต่อย่างใด

.

“ที่ผ่านมา เราจัดเวทีปราศรัยหาเสียงในหลายจังหวัด เช่น อุดรธานี อุบลราชธานี เชียงใหม่ ลำพูน และเชียงราย โดยไม่มีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น หากมีความสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย กกต. คงออกมาเตือนแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ กกต. ยังไม่มีการแสดงท่าทีใด ๆ จึงมั่นใจได้ว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย” นายอนุสรณ์กล่าว

.

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการปล่อยข่าวโค้งสุดท้าย เพื่อเล่นเกมดิสเครดิตหรือไม่? นายอนุสรณ์มองว่า อาจเป็นความพยายามดิสเครดิตผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย เนื่องจากกระแสของพรรคดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากลงพื้นที่หลายเวที

.

“ช่วงแรก กระแสของเราก็ไม่ได้ดีมากขนาดนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ประชาชนเริ่มเห็นว่า ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล สามารถเชื่อมโยงและขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลได้จริง หลายนโยบายที่เคยประกาศไว้กำลังเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม สิ่งนี้ทำให้ประชาชนมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทย ‘พูดแล้วทำ’ ไม่ใช่แค่สัญญาลม ๆ แล้ง ๆ”

.

นายอนุสรณ์ยังกล่าวถึงรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน และ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ว่า แม้ในช่วงแรกอาจมีความติดขัดบ้าง แต่ขณะนี้ นโยบายหลายอย่างเริ่มออกดอกออกผล และประชาชนรับรู้ได้ว่านายทักษิณ ซึ่งกลับมาอยู่ในประเทศไทย สามารถช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจและวิกฤติของประเทศได้

.

เมื่อถูกถามว่าการยื่นคำร้องจำนวนมากอาจเป็นการสร้างความปั่นป่วนหรือไม่ นายอนุสรณ์มองว่า การร้องเรียนเป็นสิทธิของแต่ละฝ่าย แต่ในท้ายที่สุด กกต. จะเป็นผู้วินิจฉัยว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลหรือไม่

.

“การร้องเรียนมาก ๆ ทำให้เสียเวลาและบั่นทอนบรรยากาศความสมานฉันท์ หากสุดท้ายไม่มีมูล ก็ต้องมีผู้รับผิดชอบ เพราะการร้องเรียนโดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน อาจเป็นเพียงเกมการเมืองที่สร้างความวุ่นวาย” นายอนุสรณ์กล่าว

.

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยยังคงเดินหน้าหาเสียงอย่างเข้มข้นและมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันที่สร้างสรรค์ โดยประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินจากผลงานและนโยบายเป็นหลัก ไม่ใช่จากกระแสข่าวที่อาจถูกปล่อยออกมาเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคและผู้สมัคร

.

ผลิตสื่อโดย พรรคเพื่อไทย เลขที่ 197 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน

เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 จำนวน 1 ชุด ตามวันเวลาที่ปรากฏ ที่ส่งมาในครั้งนี้

.

#พรรคเพื่อไทย #ทักษิณชินวัตร #สลักจฤฎดิ์ติยะไพรัช