“ดร.ทักษิณเยือนเชียงราย” ขอเสียงสนับสนุน “สลักจฤฎดิ์ เบอร์ 2” เป็นนายก อบจ. เชียงราย และเลือก สจ. ของพรรคเพื่อไทยให้ครบทุกคน ยันตราบใดยังแข็งแรงและไม่มีอัลไซเมอร์ จะทำงานเพื่อประเทศไทยและคนไทยเต็มที่
29 มกราคม 2568 (12.00 น.) ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คนที่ 23 ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ. พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ช่วยหาเสียงให้กับ สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย เบอร์ 2 จากพรรคเพื่อไทย ที่สิงห์ เชียงราย สเตเดียม อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย
“ขอโทษที่มาช้าหน่อย อากาศร้อนแต่พี่น้องยังอุตส่าห์รอ ขอบคุณมาก ดีใจที่ได้มาเจอกันอีกครั้ง 17 ปีที่หายไป พี่น้องคิดถึงผมหรือเปล่า? กลับมาแล้วก็ยังเห็นเชียงรายเหมือนเดิม ไม่ได้พัฒนาเท่าที่ควร ดังนั้น ผมจะช่วยทำให้เชียงรายเจริญขึ้นกว่าเดิม ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา พี่น้องมีเงินในกระเป๋ากันไหม? ถ้าหยิบดูแล้วมีน้อย ปีนี้จะเริ่มมีมากขึ้น ปีหน้าจะดีขึ้นอีก เพราะเราจะช่วยกัน รัฐบาลก็จะสร้างโอกาสให้เต็มที่”
ดร.ทักษิณ กล่าวต่อว่า “วันนี้ประเทศไทยมัวแต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ต่อไปต้องวางแผนล่วงหน้า อบจ. มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศ ฐานรากเศรษฐกิจทุกวันนี้พังหมด ต้องฟื้นฟูใหม่ การแก้วิกฤตเศรษฐกิจต้องอาศัยความร่วมมือจากท้องถิ่น จึงต้องเลือกทีมที่ทำงานประสานกับรัฐบาลได้”
“ยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นเหมือนน้องชายของผม ตั้งแต่เป็นโฆษกรัฐบาล เลขาธิการนายกฯ รัฐมนตรี และประธานสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ สลักจฤฎดิ์ ซึ่งเป็นภรรยาของยงยุทธ อาสามาเป็นนายก อบจ. ขอให้พี่น้องเลือกสลักจฤฎดิ์เพื่อทำงานเชื่อมโยงกับรัฐบาล และช่วยกันพัฒนาเชียงราย”
นอกจากนี้ ดร.ทักษิณ ยังกล่าวถึงปัญหายาเสพติดและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่แพร่ระบาดในพื้นที่ “ปีนี้ต้องจัดการให้หมด ทั้งยาเสพติดและคอลเซ็นเตอร์ เราต้องช่วยกันส่งข่าวผ่าน สจ. นายก อบจ. และ สส.เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว”
สำหรับด้านเศรษฐกิจ ดร.ทักษิณ มองว่า หลังจากเชียงรายเผชิญอุทกภัย จำเป็นต้องฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว “เราต้องสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่เป็นแมนเมด (Man-made) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เพราะการคมนาคมจากจีนมายังเชียงรายกำลังพัฒนา อีกไม่นานจะมีทางหลวงจากลาวเชื่อมต่อเชียงรายโดยตรง เราต้องเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ”
ในช่วงหนึ่งของการปราศรัย มีประชาชนตะโกนถามถึงโครงการช่วยเหลือผู้สูงอายุ ดร.ทักษิณ กล่าวว่า “คนอายุเกิน 60 ปี ได้รับเงินหมื่นเข้าบัญชีหรือยัง? ถ้ายัง แสดงว่ามีเงินฝากเกิน 500,000 บาท รัฐบาลตั้งใจช่วยคนที่มีรายได้น้อย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนคนที่อายุต่ำกว่า 60 ปี รัฐบาลกำลังพัฒนาดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำธุรกรรมกับภาครัฐในอนาคต”
ขณะเดียวกัน ประชาชนยังได้ขอให้ช่วยแก้ปัญหาเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งเป็นประเด็นค้างคามานาน ดร.ทักษิณ ระบุว่า “ยงยุทธ เคยพยายามแก้ปัญหานี้โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียมตรวจสอบสิทธิ์ของชาวบ้าน แต่ถูกปฏิวัติจนแผนสะดุด วันนี้ต้องรื้อโครงการขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้รับเอกสารสิทธิ์อย่างถูกต้อง”
ด้านปัญหาสถานะของกลุ่มชาติพันธุ์ ดร.ทักษิณ ยอมรับว่า ระบบราชการทำงานล่าช้า “สมัยผมเป็นนายกฯ ใช้เวลานานกว่าจะดำเนินการสำเร็จ วันนี้ก็ยังล่าช้าอยู่ ต้องเร่งให้มีประสิทธิภาพขึ้น”
ปิดท้ายการปราศรัย ดร.ทักษิณ กล่าวว่า “ตราบใดที่ผมยังแข็งแรงและไม่มีอัลไซเมอร์ ผมจะทำงานเพื่อประเทศไทยและคนไทยเต็มที่ เพราะพี่น้องไม่เคยลืมผม และผมก็ไม่เคยลืมพี่น้อง วันนี้ขอให้เลือก สลักจฤฎดิ์ และ สจ. ของพรรคเพื่อไทยให้ครบทุกคน”
ก่อนจบเวทีปราศรัย ดร.ทักษิณ กล่าวอวยพรตรุษจีน “ซินเจียอยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ หรือ ‘เป็นหนี้ต้องใช้’ ตรุษจีนนี้ต้องใส่เสื้อแดง กินส้ม จะได้เฮงๆ” ทันใดนั้น มีประชาชนตะโกนว่า “กินส้มแต่คายแล้ว” ดร.ทักษิณ หัวเราะและตอบกลับว่า “ดีๆ”
การปราศรัยจบลงท่ามกลางเสียงเชียร์จากประชาชนที่มาร่วมงาน พร้อมคำอวยพรให้ชาวเชียงรายมีความสุขในปีใหม่จีน
(13.10 น.) ดร.ทักษิณ เดินทางไปปราศรัยที่โรงเรียนพานพิเศษพิทยา อ.พาน จ.เชียงราย ท่ามกลางประชาชนที่มารอฟังแน่นพื้นที่
“ไม่ได้เจอกันนานมาก ผมดูแก่ขึ้นไหม? เดือนกรกฎาคมนี้อายุ 76 แล้วนะ ขอบคุณพี่น้องที่ยังสู้ แม้อากาศร้อนก็ยังมา ถ้าพี่น้องสู้ ผมก็สู้ด้วย เราจะช่วยกันแก้ปัญหา ขอสุมาเต๊อะ (ขอโทษ) คนที่มาหอมมือผมเมื่อกี้ ตอนอยู่ในรถก็กินข้าวนึ่งกับน้ำพริกตาแดงมาด้วย คนเชียงรายสบายดีกันไหม? คิดถึงผมหรือเปล่า?”
วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้หนักกว่าปี 2540
ดร.ทักษิณ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงที่สุดคือพี่น้องในต่างจังหวัด เพราะเศรษฐกิจวันนี้ไม่ได้พังเฉพาะภาคบนเหมือนปี 2540 แต่พังทั้งระบบ รายได้หายไปหมด ขณะที่ธนาคารพาณิชย์มีกำไรเพิ่มขึ้น 14% แต่จีดีพีโตเพียง 3% แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไม่สมดุล บริหารผิดพลาด ประเทศไทยเติบโตช้ากว่าประเทศอื่นในอาเซียน เพราะความล้มเหลวในการบริหารต่อเนื่องมาหลายปี
“ตอนผมเป็นนายกฯ อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจเร็วที่สุด เคยทำงบประมาณสมดุลได้ถึงสองปี แต่ตอนนี้ประเทศขาดดุลอย่างต่อเนื่อง หนี้สินพอกพูน ทั้งหนี้ประชาชน หนี้ครัวเรือน และหนี้ประเทศ สามปีจากนี้ไป ผมจะทุ่มเททั้งกำลังกายและสมองให้พี่น้องกลับมาเฟื่องฟูเหมือนเดิม”
กระจายความเจริญ ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างเมืองกับชนบท
ดร.ทักษิณย้ำว่า ต้องเร่งกระจายความมั่งคั่งออกจากกรุงเทพฯ เพราะตอนนี้เงินถูกดูดเข้าไปในเมืองหลวงหมด เชียงรายและต่างจังหวัดอื่นๆ เหือดแห้งเหมือนปลาขาดน้ำ พรรคเพื่อไทยจะระดมทุกสรรพกำลังเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้อง
“รัฐบาลต้องทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ลดค่าครองชีพให้ประชาชน ความสัมพันธ์ไทย-จีนตอนนี้ดีมาก ล่าสุดจีนประกาศรับซื้อมันสำปะหลัง 300,000 ตัน ทำให้ราคาสูงขึ้น รวมถึงลำไย จะช่วยผลักดันให้จีนรับซื้ออย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายตลาดเพิ่มเติม”
สำหรับราคาข้าวและยางพารา ดร.ทักษิณเผยว่า กำลังวางแผนเพิ่มมูลค่าผ่านการแปรรูปและสร้างความร่วมมือระหว่างไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และกำลังดึงเวียดนามเข้ามาร่วมอีกหนึ่งประเทศ
“เพื่อนผมทั้งนั้น คุยกันรู้เรื่อง ผมจะไม่ให้ราคายางถูกขายต่ำเกินไป ต้องดึงราคาขึ้นมาให้ได้ มั่นใจว่ายางพาราและสินค้าเกษตรอื่นๆ จะมีโอกาสปรับราคาสูงขึ้นแน่นอน ตอนนี้กำลังดูว่าอะไรจะขึ้นก่อนขึ้นหลัง ทำงานกันเต็มที่”
ฝากให้เลือกเพื่อไทยให้เกลี้ยง!
ดร.ทักษิณกล่าวปิดท้ายว่า พี่น้องเชียงรายเลือกเพื่อไทยมาตลอด คราวนี้ถึงจะมีบางส่วนขาดไปบ้าง แต่คราวหน้าเพื่อไทยต้องกวาดให้เกลี้ยง
“อย่าขี้เหนียว เทเบอร์สองคนเดียว เลือก ส.จ. ให้ด้วย นายก อบจ. ต้องเป็นพวกเรา ผมจะได้มาช่วยเต็มที่ ผมคือ ‘สทร.’ หรือ ‘เสือกทุกเรื่อง’ ถ้าไม่เสือกก็ไม่มีใครจ้ำจี้จ้ำไช 17 ปีที่รอคอย ผมไม่ไปไหนแล้ว อยู่กับพี่น้อง ทำงานเต็มที่ เลือกเพื่อไทยให้ถล่มทลาย”
ผลิตสื่อโดย พรรคเพื่อไทย เลขที่ 197 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน
เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 จำนวน 1 ชุด ตามวันเวลาที่ปรากฏ ที่ส่งมาในครั้งนี้
#พรรคเพื่อไทย #สลักจฤฎดิ์ติยะไพรัช #นายกอบจ #เลือกตั้งนายกอบจ