นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตอบกระทู้ถามสดเรื่อง การกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดการปัญหาฝุ่น
ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ พรรคประชาชน ว่ารัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้ความใส่ใจแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะยิ่ง การกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีบทบาทในการร่วมแก้ไขปัญหา ล่าสุดคือกระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่ง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เสนอจัดทำแผนงานมาตรการ ทำระบบแจ้งเตือน จัดอาสาสมัครในชุมชน และจัดเตรียมเครื่องมือดับไฟป่า โดยขณะนี้ดำเนินการไปแล้วใน 19 อปท. และก็มีอีกหลายแห่งกำลังดำเนินการอยู่
.
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เริ่มต้นกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่ารัฐบาลให้ความใส่ใจปัญหานี้อย่างยิ่ง โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณในการแก้ไขปัญหาฝุ่น ประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา ซึ่งต้องกราบเรียนว่า การดำเนินการจัดการป้องกันไฟป่านั้นมีอยู่ 2 กรณี คือ กรณีที่เป็นป่าสงวนฯ และกรณีป่าอนุรักษ์
.
ในกรณีที่เป็นป่าสงวนนั้นจะมีภารกิจป้องกันไฟป่า จัดชุดเฝ้าระวัง ซึ่งเป็นคนในท้องถิ่นช่วยกันดูแล โดยเฉพาะเรื่องการลาดตระเวนดับไฟป่าที่มีความเสี่ยง โดยใช้เงินงบประมาณจัดสรรทั่วไปให้กับ อปท.ในพื้นที่เสี่ยงกว่า 90 แห่งทั่วประเทศ ใช้งบประมาณ 122 ล้านบาท และยังจัดอบรมเสริมสร้างการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน เป็นการสร้างการตระหนักรู้กับผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 17 จังหวัดภาคเหนือ 1,700 คน และในระยะถัดไป กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมป่าไม้ กรมควบคุมมลพิษ กรมอุทยานสัตว์ป่าฯ จะจัดทำแนวทางให้ อปท. ไปจัดทำแผนป้องกันและควบคุมไฟป่าให้มีประสิทธิภาพ
.
ส่วนกรณีพื้นที่ป่าอนุรักษ์นั้น มีคำสั่งการกระจายอำนาจ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้หารือกับในพื้นที่จัดทำแผนงาน ระบบแจ้งเตือน อาสาสมัคร และเครื่องมือ โดยขณะนี้ดำเนินการไปแล้วใน 19 อปท. และก็กำลังสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมอยู่
.
ส่วนที่ท่านสส. ได้ถามว่าถ้าปีนี้ใช้งบกลางไปแล้ว ปีหน้าจะทำอย่างไรต่อ ก็ขอเรียนว่า ทางกระทรวงมหาดไทย มีข้อสั่งการให้ผู้ว่าฯ ในฐานะผู้กำกับ อปท. ให้ อปท. ทุกแห่งสามารถจัดทำแผนดำเนินงานป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ได้ต่อเนื่อง โดยกำหนดแผนงานหรือกิจกรรมในแผนพัฒนาท้องถิ่นตั้งงบประมาณ และนอกจากนี้ยังสามารถบูรณาการงานกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยแก้ปัญหาฝุ่นควันได้ด้วย นี่คือการให้กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นช่วยคิดช่วยทำ
.
ขอเรียนเพิ่มเติมว่า การแก้ไขปัญหาฝุ่นควันนั้น เมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลก็มี 11 มาตรการแก้ฝุ่นเร่งด่วนโดยจะขอยกตัวอย่าง เช่น กระทรวงอุตสาหกรรม ก็มีมาตรการงดซื้อรับอ้อยไฟไหม้ หรืออ้อยทีเผาเกิน 25เ ปอร์เซ็นต์ ทำให้ควันไฟที่เกิดจากการเผาลดลง จาก 27 เปอร์เซ็นต์เหลือแค่ 11 เปอร์เซ็นต์ อย่างเข้มงวดเด็ดขาด หรือแม้แต่ในกรุงเทพมหานครเองที่ท่านผู้ถามกระทู้ถามถึง ก็มีมาตรการชัดเจนเช่นการตรวจจับท่อไอเสียควันดำ 4 มุมเมืองทั่วกรุงเทพ รวมถึงการส่งเสริมให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวมาใช้รถไฟฟ้าซึ่งเป็นบริการสาธารณะที่ไม่มีปัญหามลพิษด้วยเป็นต้น คำถามต่อมาว่า ปีหน้าจะเกิดฝุ่นอีกไหม ผมก็ต้องขอเรียนว่า ไม่มีใครอยากให้เกิดปัญหาควันฝุ่นอย่างแน่นอน
.
#พรรคเพื่อไทย #ฝุ่นPM25