โดยการพุ่งเป้าหมายไปที่ผู้ที่มีรายได้น้อย ก็คือผู้มีรายได้ไม่เกิน 50,000 บาท เน้นกลุ่มคนวัยทำงาน โดยเลือกสถานที่ที่เหมาะสม มีระบบการขนส่งสะดวกสบาย เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้พี่น้องประชาชน โดยมีผู้พัฒนาโครงการ คือการรถไฟแห่งประเทศไทย และบริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งบริษัทลูกตั้งขึ้นตามมติ ครม. ปี 2563

.

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่กระทรวงคมนาคม เปิดให้ชมบ้านตัวอย่าง บ้านเพื่อคนไทย ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์  ได้มีการเปิดเว็บไซต์เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้แจ้งความประสงค์ความต้องการบ้านเพื่อคนไทย (จากข้อมูลเบื้องต้น ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568) พบว่า มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิในโครงการรวม 259,258 ราย โดยแยกสิทธิตามพื้นที่ 4 แห่ง ได้แก่

.

-พื้นที่ กม.11 วิภาวดี มีผู้สนใจ 173,171 คน

-พื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้สนใจ 35,465 คน

-พื้นที่ เชียงราก ปทุมธานี มีผู้สนใจ 12,668 คน

-พื้นที่ ธนบุรี กรุงเทพฯ มีผู้สนใจ 37,954 คน 

.

และจากการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นโดย ธอส. พบมีผู้ผ่านคุณสมบัติ 137,375 คน 

.

สำหรับคุณสมบัติ เงื่อนไขผู้มีสิทธิการจอง/เช่า

.

-มีสัญชาติไทย

-บรรลุนิติภาวะ ณ วันลงทะเบียน

-มีรายได้ไม่เกิน 50,000 บาท/เดือน

-ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอาคาร สิ่งปลูกสร้างที่อาจใช้พักอาศัยได้ทุกประเภท

-ต้องไม่เคยได้สิทธิโครงการบ้านเพื่อคนไทย

.

นายสุรพงษ์ ตอบคำถามของท่านสมาชิกที่ว่า ห้องตัวอย่างที่เปิดให้ชมกับห้องจริงนั้นจะตรงกันหรือไม่ ที่ถามว่า ห้องตัวอย่างที่ได้ชมกับห้องจริงนั้นจะตรงปกหรือไม่ ขอตอบว่า จริงๆแล้ว ตรงปกไม่มีขาดจากนั้น มีแต่จะเกินปก ส่วนจำนวนที่ยังไม่แน่นอน คำว่าไม่แน่นอนนั้น เนื่องจากขนาดห้องมีหลายแบบ เช่น 30 ตร.ม. ซึ่งจำนวนความต้องการที่พี่น้องมาใช้สิทธิจะบ่งบอกถึงความต้องการ ฉะนั้น ในแต่ละตึก จะปรับเปลี่ยนไปตามขนาดและความต้องการ 

.

ส่วนทุนการก่อสร้างนั้น ผู้รับเหมาจะต้องมาพร้อมทุนเพื่อก่อสร้างบ้านให้เสร็จ จากนั้น ก็ไฟแนนซ์ กับ ธกส. และผู้รับสิทธิ ซึ่งผู้รับสิทธิจะต้องจับสลากอีกครั้งโดยกองสลากเพราะผู้จองสิทธิมีมากกว่าผู้รับสิทธิ ดังนั้น โครงการนี้จึงไม่ได้กระทบกับรัฐบาลและธนาคาร เช่น ธกส. ก็จะปล่อยกู้มีรายได้ตามกระบวนการปกติ

.

#พรรคเพื่อไทย #บ้านเพื่อคนไทย