สส.พรรคเพื่อไทย นำโดย นางสาวธัญธารีย์ สันตพันธุ์ สส.อุบลราชธานี  นายอภิชาติ ตีรสวัสดิชัย สส.สกลนคร นายนพพล เหลืองทองนารา สส.พิษณุโลก และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ ร่วมอภิปรายญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาข้อเท็จจริงและหาแนวทางแก้ไขปัญหาความยากจน

.

นางสาวธัญธารีย์ สันตพันธุ์ สส.อุบลราชธานี กล่าวสนับสนุนญัตติการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยถือเป็นหน้าที่ สส.โดยตรงจะต้องระดมความคิด หาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขเพื่อเสนอแก่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัญหาความยากจนของพี่น้องกลุ่มเกษตรกร มีสาเหตุหลักดังนี้

.

ปัญหาการไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินของเกษตรกร เพราะที่ดินเป็นต้นทุนสำคัญในการเพาะปลูก แต่ในความเป็นจริง เมื่อไม่มีกรรมสิทธิ์ก็จะไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ต้องไปพึ่งพากู้ยืมเงินนอกระบบมาลงทุน ทำให้เสียดอกเบี้ยแพง รายได้ที่มีมา ก็จ่ายดอกเบี้ยหมด

.

พึ่งพาเกษตรกรรม-จำนวนผลผลิตต่อไร่ที่ต่ำ ไม่ว่าจะข้าว มันสำปะหลัง หรือยางพารา อาจเป็นปัญหาจากสายพันธุ์ที่ขาดการพัฒนา ดินไม่มีคุณภาพ จึงส่งผลให้ได้ผลผลิตน้อย รวมถึงหากปีไหนราคาพืชผลตกต่ำ ก็ยิ่งจะมีรายได้น้อยกว่าเดิม

.

การขาดแคลนแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งพื้นที่เพาะปลูกหลายแห่งอยู่ไกลแหล่งน้ำธรรมชาติ และอยู่นอกเขตชลประทาน ต้องเสียเงินซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อสูบน้ำ หรือต้องซื้อน้ำจากที่อื่นมาใช้รด ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น

.

นายอภิชาติ ตีรสวัสดิชัย สส.สกลนคร กล่าวว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกภาคส่วนพยายามช่วยเหลือคนยากจนมาโดยตลอด ซึ่งแนวทางของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร  ก็มีนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจน และหนี้สินให้กับพี่น้องในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร เพราะนอกจากมีมาตรการในการสนับสนุน ชดเชยรายได้ให้เกษตรกรให้พี่น้องในพืชผลบางตัวแล้วซึ่งเป็นมาตรการเฉพาะหน้า ในระยะยาวก็มีการปรับแนวทางการเพาะปลูกด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตลอดจนวิทยาการด้านการเกษตรมาช่วยเหลือเกษตรกร ประกอบกับหน่วยงานราชการที่ได้มีการวิจัยส่งเสริมสนับสนุนเพื่อเพิ่มรายได้ให้พี่น้อง

.

ในส่วนปัญหาความยากจนในชุมชนนั้น ก็ได้แนวทางความร่วมมือจากชุมชน ชาวบ้านขึ้นมาจนถึงหน่วยงานรัฐคิดหาแนวทางช่วยเหลือแบบเห็นผล เช่น บางหมู่บ้านในจังหวัดสกลนคร จะได้รับโครงการวัวบ้านละ 1 ตัวหรือหมู่บ้านละ 50 ตัว เพื่อให้ประชาชนได้เลี้ยงดูขยายพันธุ์ และมีกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของ สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน เพราะอย่างน้อยวัวตัวหนึ่งก็มีราคา 25,000 บาท รวมถึงการที่บริษัทเอกชนได้เข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรร่วมโครงการเป็นเกษตรพันธสัญญา เพื่อให้เกษตรกรได้รับการันตีแน่นอนว่า จะสามารถขายพืชผักได้ราคา รวมถึงความพยายามของภาครัฐในการขยายเขตชลประทาน ก็จะช่วยให้เกษตรกรได้น้ำไปใช้ในการเพาะปลูกเพิ่มผลิตมากขึ้น

.

นายนพพล เหลืองทองนารา สส.พิษณุโลก กล่าวว่าทุกรัฐบาลในช่วงเวลากว่า 60 ปี ล้วนให้ความสำคัญปัญหาความยากจน แต่ด้วยการที่เราอยู่ภายใต้ระบบเศรษฐกิจโลกซึ่งไม่อาจปฏิเสธผลกระทบได้ แต่ทุกรัฐบาลรวมถึงรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ก็พยายามทำงานเพื่อให้พี่น้องเกษตรกร สามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่สูง และหลายครั้งเมื่อราคาตกต่ำก็จะมีพี่น้องเกษตรกรกลุ่มหนึ่งออกมาบอกว่าต้องช่วย ซึ่งนั่นคือการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ดังนั้นสิ่งที่ยั่งยืนกว่า คือการดูแลเกษตรกรตั้งแต่ต้นน้ำ ดิน น้ำ ปุ๋ย สายพันธุ์พืช ตลอดไปจนถึงวิจัย พัฒนาการ การตลาดการขายสินค้าไปตลาดโลก น่าจะช่วยแก้ปัญหาให้พี่น้องในระยะยาวได้ดีที่สุด  

.

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ กล่าวเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาว่าปัญหาความยากจนเกิดจากการมีหนี้ เมื่อไม่มีเงินใช้หนี้ กู้ใหม่ก็ไม่ได้สิ่งที่จะต้องทำก็คือ

.

-ปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ ช่วยลูกหนี้ทั้งในระบบนอกระบบควบคู่การออม

-ปกป้องผลประโยชน์ผู้ประกอบการไทย จากการแข่งขันกับต่างชาติที่ไม่เป็นธรรม

-ลดราคาค่าพลังงาน สาธารณูปโภค พัฒนาระบบขนส่งให้มีคุณภาพ

-สร้างรายได้ใหม่ของภาครัฐ นำเศรษฐกิจนอกระบบเและเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษีเพื่อใช้จัดสวัสดิการและสาธารณสุข

-กระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่การลดภาระค่าใช้จ่าย ให้พี่น้องโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง

-ยกระดับเกษตรดั้งเดิม เป็นเกษตรสมัยใหม่ ใช้ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้

-ส่งเสริมการท่องเที่ยว เพิ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น ฯลฯ

#พรรคเพื่อไทย