กระทรวงพาณิชย์ แถลงการส่งออกของไทยในเดือนมกราคม 2568 มีมูลค่า 25,277.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (862,367 ล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ที่ 13.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 โดยได้รับแรงหนุนจาก
1.เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง การส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างสหรัฐฯ และจีนขยายตัวในระดับสูง
2.อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัว
3.การขยายตัวของกิจกรรมภาคการผลิต
4.ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นทั้งในภาคการผลิตและผู้บริโภค
ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 27,157.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 7.9% ดุลการค้า ขาดดุล 1,880.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น สินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว 17% (YoY) ขยายตัวต่อเนื่อง 10 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัว 148.8%
ตลาดหลัก ขยายตัว 11.2 % โดยขยายตัวทุกตลาด ได้แก่
1. สหรัฐฯ 22.4 % (ขยายตัวต่อเนื่อง 16 เดือน)
2.จีน 13.2% (ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน)
3.ญี่ปุ่น 1.9% (ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน)
4. สหภาพยุโรป (27) 13.8% (ขยายตัวต่อเนื่อง 8 เดือน)
5. อาเซียน (5) 4.8% (กลับมาขยายตัวในรอบ 3 เดือน)
6. CLMV 5.2% (ขยายตัวต่อเนื่อง 13 เดือน)
กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่า แนวโน้มการส่งออกในปี 2568 จะมีอัตราการขยายตัวที่ 2-3% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ได้แก่
1.แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะเติบโตตามการขยายตัวของภาคการผลิต
2.สถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนและตะวันออกกลางที่เริ่มคลี่คลาย
3.ดัชนีราคาอาหารโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นซึ่งสะท้อนความต้องการสินค้าเกษตรและอาหารที่เพิ่มขึ้น
4.โอกาสการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการทดแทนสินค้านำเข้าจากจีน
#พรรคเพื่อไทย #ส่งออก