‘นายกรัฐมนตรี’ ลงนามตั้ง ‘คณะกรรมการ ปชด.’ มอบอำนาจ ‘ผบ.ทหารสูงสุด’ บูรณาการขับเคลื่อนแก้ปัญหายาเสพติด-อาชญากรรมข้ามชาติ-คอลเซ็นเตอร์ ชายแดนไทย-ประเทศเพื่อนบ้าน
.
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 83/2568 เรื่อง การจัดตั้งกลไกอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านตามที่คณะรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยจะแก้ไขปัญหายาเสพติอย่างเด็ดขาดและครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและจำหน่ายด้วยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้น ควบคุมการลักลอบนำเข้าและตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด และเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติของประชาชนโดยจะเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และรับมือกับอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งภัยคุกคามข้ามชาติรูปแบบใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนและการดำเนินชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนนั้น
.
เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นไปอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาพเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) และ (9) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
.
ข้อ 1.ให้มีคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เรียกโดยย่อว่า “คณะกรรมการ ปชด.”
.
1.1 องค์ประกอบ
.
(1) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ประธานกรรมการ
(2) ปลัดกระทรวงมหาดไทย รองประธานกรรมการ (1)
(3) ผู้บัญชาการทหารบก รองประธานกรรมการ (2)
(4) ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รองประธานกรรมการ (3)
(5) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ได้รับมอบหมาย รองประธานกรรมการ (4)
(6) ผู้แทนสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการ
(7) ผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงกรรมการภายในราชอาณาจักร กรรมการ
(8) ผู้แทนกระทรวงกลาโหม กรรมการ
(9) ผู้แทนกระทรวงการคลัง กรรมการ
(10) ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ กรรมการ
(11) ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรรมการ
(12) ผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรรมการ
(13) ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม กรรมการ
(14) ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข กรรมการ
(15) ผู้แทนกองทัพเรือ กรรมการ
(16) ผู้แทนกองทัพอากาศ กรรมการ
(17) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรรมการ
(18) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กรรมการ
(19) ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรรมการ
(20) ผู้แทนกองทัพภาคที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พิจารณาตามที่ประธานเห็นสมควร กรรมการ
(21) ผู้แทนจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พิจารณาตามที่ประธานเห็นสมควร กรรมการ
(22) ผู้แทนหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พิจารณาตามที่ประธานเห็นสมควร กรรมการ
(23) เสนาธิการทหาร กรรมการและเลขานุการ
(24) รองเสนาธิการทหาร ที่ได้รับมอบหมาย ผู้ช่วยเลขานุการ (1)
(25) เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ผู้ช่วยเลขานุการ (2)
(26) ผู้อำนวยการกองความมั่นคงกิจการชายแดนและประเทศรอบบ้าน สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้ช่วยเลขานุการ (3)
.
1.2 มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
.
(1) ติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน
(2) นำนโยบายของรัฐบาล นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ.2566-2570) หรือยุทธศาสตร์เฉพาะเรื่องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ไปสู่การปฏิบัติ
(3) เร่งรัด กำกับดูแล ตรวจสอบ ติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการและองค์การต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ตามโยบายของรัฐบาล นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ.2566-2570) และยุทธศาสตร์เฉพาะเรื่อง
(4) ประสานความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาคเอกชน หน่วยงานภาควิชาการ และองค์กรภาคประชาชน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาม
(5) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือคณะที่ปรึกษา เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
(6) รายงานผลการปฏิบัติงานหรือสถานการณ์ปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ
(7) ดำเนินการอื่นใดตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
.
ข้อ 2 ให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เรียกโดยย่อว่า “ศอ.ปชด.” โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้อำนวยการ เรียกโดยย่อว่า “ผอ.ศอ.ปชด.”
.
2.1 มีหน้าที่และอำนาจดังต่อไปนี้
.
(1) อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงเพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ.2566-2570) นำนโยบายของคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านไปสู่การปฏิบัติให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม
(2) ประสานความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาคเอกชน หน่วยงานภาควิชาการ และองค์กรภาคประชาชน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาม
(3) รายงานผลการปฏิบัติงานหรือสถานการณ์ปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านต่อคณะกรรมการ ปชด.
(4) ดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านมอบหมาย
.
2.2 ผอ.ศอ.ปชด.มีอำนาจในการจัดตั้งกองอำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการ หรือศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจ เพื่อสนับสนุนการการดำเนินงานของ ศอ.ปชด. ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยจัดโครงสร้างการติดต่อสื่อสาร การรายงาน และการติดตามประเมินผลการปฏิบัติงาน
.
ข้อ 3 ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณา การและให้ความร่วมมือแก่คณะกรรมการ ศูนย์อำนวยการขับเคลื่อน ตลอดจนการปฏิบัติการตามที่ได้รับการร้องขอ
.
ข้อ 4 คำสั่งอื่นใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ให้ใช้คำสั่งนี้แทน
.
ข้อ 5 การเบิกจ่ายเบี้ยประชุมหรือค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานที่แต่งตั้งตามคำสั่งนี้ ให้เป็นไป ตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ.2547 หรือตามระเบียบของทางราชการ แล้วแต่กรณีโดยเบิกจ่ายจากงบประมาณของกรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย
.
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568
.
(นางสาวแพทองธาร ชินวัตร)
นายกรัฐมนตรี
.
#พรรคเพื่อไทย