(ASEAN Food Safety Regulatory Framework Agreement) นำโดย นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ และ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ ร่วมอภิปรายถึงการจัดมาตรฐานอาหารในกลุ่มประเทศอาเซียนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ก็จะช่วยให้พลเมืองในอาเซียน ได้มีมาตรฐานอาหารที่ปลอดภัย ย่อมส่งผลถึงเกษตรกร ที่จะต้องใส่ใจปลูกพืชผักหรือผลิตอาหารอย่างระมัดระวัง ใช้สารเคมีให้น้อยลง ใช้องค์ความรู้ทางชีวอินทรีย์มากขึ้น ก็จะช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น และช่วยให้การส่งออกสินค้าอาหารของไทยได้รับการยอมรับถึงความปลอดภัยมากขึ้นด้วย

.

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด กล่าวว่า เมื่อผู้บริโภคกิน ‘อาหารปลอดภัย’ เกษตรกรก็ปลอดภัย สิ่งแวดล้อมดีขึ้น จะรณรงค์ให้กินผักก็ต้องเป็นผักปลอดสาร เนื้อ หมู ไก่ เลี้ยงอย่างคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ ‘เทรนด์อาหารปลอดภัย’ ไม่เพียงดีต่อผู้บริโภค หากแต่ดีต่อโลกด้วย ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวนี้มีข้อดีสำคัญ 5 ประการ ได้แก่

.

 1. ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอาหารในอาเซียน

 • ส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกอาเซียนมีมาตรฐานความปลอดภัยอาหารที่สอดคล้องกัน ลดความแตกต่างของกฎระเบียบในแต่ละประเทศ

 .

2. ส่งเสริมการค้าและลดอุปสรรคทางการค้า

 • ลดปัญหาการกีดกันทางการค้าด้านมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร ทำให้การส่งออกและนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารระหว่างประเทศสมาชิกเป็นไปได้ง่ายขึ้น

.

3. เพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

 • ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่าอาหารที่ผลิตและนำเข้ามาภายในอาเซียนมีความปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนด

.

4. สนับสนุนความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

 • ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และการวิจัยด้านความปลอดภัยอาหารระหว่างประเทศสมาชิก

.

5. เสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการในอาเซียน

 • ผู้ผลิตและผู้ประกอบการในอาเซียนสามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น เนื่องจากมีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

.

ความตกลงนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของอาเซียนให้มีคุณภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น

.

ด้านนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า ปัญหาด้านมาตรฐานอาหารและความปลอดภัยทางการอาหารเป็นมาตรฐานที่ประเทศในกลุ่มอาเซียนรวมถึงมิตรประเทศที่ค้าขายกันควรจะได้มีการพูดจากันให้ชัด เพราะจากข่าวสารไม่นานมานี้ เรามักจะพบว่า เมื่อเราส่งออกสินค้าอาหาร หรือผลไม้ไปยังประเทศคู่ค้า เราจะพบว่าประเทศปลายทางได้ตรวจสอบและตีกลับสินค้าโดยอ้างว่ามีสารปนเปื้อน จากนั้น ก็ได้มีการจัดให้มีการตรวจสอบอาหารหรือสินค้าผ่านห้องปฏิบัติการ เพื่อแนบผลการตรวจหาสารปนเปื้อน แต่ก็ยังพบปัญหาต่อมาว่ามีประเด็นไม่ตรงกันเรื่องมาตรฐานการตรวจสอบเพิ่มขึ้นมาอีก

.

ปัญหาสารปนเปื้อนในอาหารหรือผลไม้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อพี่น้องเกษตรกรบ้านเราที่ต้องส่งออกสินค้าและถูกตีกลับ เพราะนอกจากจะเสียค่าตรวจสอบ ค่าแล็บทดลอง แล้วเมื่อส่งไปกลับยังไม่ได้รับการรับรองจากประเทศปลายทาง ดังนั้นจึงควรจะได้มีการพูดคุยกันว่า ต่อไปนี้มาตรฐานด้านอาหารต่อไปนี้จะควรเป็นเช่นไร มีมาตรฐานอย่างไร เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้พี่น้องเกษตรกร ผู้ส่งออก ลดปัญหาการสูญเสียสินค้าเน่าเสีย ลดปัญหาให้ผู้ส่งออกสินค้า และถ้ามาตรการดังกล่าวมีประสิทธิภาพ อาจไม่ใช่แค่ใช้เป็นมาตรฐานของอาเซียน แต่ยังสามารถขยายไปยังประเทศอื่นได้อีกด้วย

.

#พรรคเพื่อไทย