นายกฯ สั่งเอาผิดทางแพ่งผู้รับเหมา และเอาผิดอาญา – ยึดใบอนุญาตที่ปรึกษาโครงการ ลั่น ทุกส่วนงานต้องรับผิดชอบ ทุกชีวิตสำคัญ หลังเกิดเหตุซ้ำซาก สั่ง ‘ดีเอสไอ’ สอบสาเหตุ 

.

วัน 17 มีนาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานรับผิดชอบที่เกื่ยวข้อง เรื่องมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างถนน และเส้นทางคมนาคม ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมถึงหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงคมนาคม อาทิ ปลัดกระทรวงฯ, อธิบดีกรมทางหลวง, อธิบดีกรมทางหลวงชนบท, ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย, รักษาการผู้ว่าการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย, รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย, ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รวมไปถึงอธิบดีกรมบัญชีกลาง และผู้อำนวยการกองระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และราคากลางกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เข้าร่วม

.

นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมว่า วันนี้จะมาพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 มี.ค.68) ซึ่งต้องขอบคุณนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้เดินทางไปในพื้นที่ด้วยตนเอง ส่วนสัญญาในการก่อสร้างแม้ว่า จะไม่ได้เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ แต่รัฐบาลเราต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่การแอ็คชั่น แต่ละครั้ง ที่ออกไปอยากให้มีสาระสำคัญมากกว่านี้ เพราะฉะนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงกระทรวงคมนาคม เช่น บริษัทผู้รับเหมาใหญ่ ๆ ที่มีการทำสัญญาแบบ Sub – contract หาบริษัทผู้รับเหมารายย่อยมารับช่วงต่อ เพราะฉะนั้น จะต้องดูว่าบริษัทเหล่านี้ ได้มาตรฐานหรือไม่ จึงอยากให้มีความรับผิดชอบทั้งทางแพ่ง ซึ่งขอให้ดำเนินการในเรื่องนี้ทันที

.

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องของที่ปรึกษาโครงการ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในวิชาชีพ ต้องดูว่า การดำเนินการในโครงการต่าง ๆ ได้มีการละเลยหรือไม่ และการควบคุมการก่อสร้างได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และข้อกำหนดต่าง ๆ หรือไม่ ซึ่งต้องมีความรับผิดชอบทางอาญาด้วย และต้องมีการรับผิดชอบร่วมกัน

.

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องของที่ปรึกษาโครงการฯ ปัญหาที่เกิดขณะนี้มีปัญหาซับซ้อนมากน้อยแค่ไหน ต้องถึงขั้นยึดใบอนุญาตหรือไม่ ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างจริงจัง และคิดว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องมีผู้รับผิดชอบในด้านใดบ้าง

.

ส่วนเรื่องการก่อสร้างถนนพระรามที่ 2 ก็ต้องดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ แต่เหตุการณ์ และปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของการมีผู้เสียชีวิต ซึ่งชีวิตของคนไม่ควรจะเกิดแบบนี้ ดังนั้นต้องมีความชัดเจนในเรื่องของความรับผิดชอบ ต้องมีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง 

.

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ต้องดูรายละเอียดเรื่องของการสืบสวนสอบสวนด้วยว่า เกิดขึ้นได้อย่างไร โดยให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ไปดำเนินการ เพราะไม่อยากให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต และมีความรับผิดชอบเป็นครั้ง ๆ จึงอยากให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องมีความจริงจัง เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นอีก และอยากให้ดูแลเรื่องของการจราจรควบคู่ไปด้วย เพราะได้รับการร้องเรียนมา ควบคู่กับการดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน 

.

ด้านนายสุริยะ กล่าวถึงภาพรวมสิ่งที่ประชาชนสะท้อนออกมา ซึ่งต้องยอมรับว่าถนนพระราม 2 เป็นปัญหาซ้ำซาก และเหตุที่เกิดขึ้น กระทรวงคมนาคมไม่เคยปัดความรับผิดชอบ ได้สั่งการให้อธิบดีกรมทางหลวง ให้ไปดูแลเรื่องความปลอดภัย และเข้มงวดกับผู้รับเหมาก่อสร้าง 

.

ที่ผ่านมาได้เชิญผู้รับเหมามาพูดคุย และเน้นย้ำ ไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นอีก แต่ในที่สุดก็เกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก จึงมีมาตรการสมุดพก ที่จดบันทึกแต่ละครั้งแต่ละครั้งว่า มีอุบัติเหตุกี่ครั้ง หากมีกรณีเสียชีวิตจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งได้ประสานกับกรมบัญชีกลางว่า จะสามารถขึ้นแบล็คลิสต์หากพบมีผู้เสียชีวิต ห้ามบริษัทดังกล่าว มาประมูลงานใหม่ 1-2 ปี หากบริษัทผู้รับเหมา ทำไม่ได้ และยังเกิดอุบัติเหตุอยู่ ก็จะส่งผลถึงอนาคต ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือ ไม่มีรายได้ เชื่อว่า มาตรการนี้น่าจะได้ผลมากกว่าการพูดคุยแบบปากเปล่า ซึ่งกระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลาง ได้ให้ความร่วมมือในการแก้กฎเกณฑ์เป็นอย่างดี ยืนยัน นายกรัฐมนตรีไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า การก่อสร้างนั้นมีความล่าช้า วันนี้จึงมาพูดคุยกันในภาพรวม 

.

ส่วนการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้จ้างที่ปรึกษามาดูแล โดยบริษัทที่ปรึกษานี้ได้ดำเนินการฟ้องร้องทางอาญา

#พรรคเพื่อไทย