วันที่ 19 มีนาคม 2568 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน 

.

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันโปรโมทเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งได้มีการพูดคุยกับนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ถึงแนวคิดที่จะให้มีการส่งเสริมสนับสนุนในเรื่องของกางเกงของแต่ละจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน มีอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นและมีสีสันสวยงาม นายกรัฐมนตรีได้รับกางเกงของแต่ละจังหวัดมาประมาณ 50 กว่าตัวมาให้เลือก โดยนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาเลือกใส่กางเกงลายอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นจากสีของกางเกงเพื่อนำไปแมตช์กับเสื้อสูทโดยไม่ได้เลือกว่าจะเป็นกางเกงของจังหวัดใด

.

“รู้สึกดีใจที่รัฐมนตรีหลายคนสนับสนุนกางเกงประจำจังหวัด โดยในช่วงสงกรานต์ต้องการให้ส่งเสริมใส่กางเกงประจำจังหวัด เพื่อช่วยกันโปรโมท สนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่นและชาวบ้าน สนับสนุนคนในจังหวัด รวมถึงการดีไซน์ของแต่ละจังหวัดด้วย” นายกรัฐมนตรีย้ำ

.

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมซอฟต์พาวเวอร์ครั้งนี้ เป็นการประชุมครั้งแรกประจำปี 2568 ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ยกระดับซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยได้จริงในหลายด้าน ทั้งด้านท่องเที่ยวในด้านต่าง ๆ ทำให้ต่างชาติเข้าใจ และชื่นชอบในซอฟต์พาวเวอร์ของไทยมากขึ้น ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ จะประสบความสำเร็จได้เกิดจากทุกฝ่ายร่วมมือทำงานขับเคลื่อนอย่างจริงจัง เป็นสิ่งที่น่าประทับใจอย่างมาก และปีนี้ขอให้ร่วมกันทำงานเพื่อให้ซอฟต์พาวเวอร์ของไทยไปสู่สายตาของโลกและสร้างความประทับใจต่อไป 

.

หลังการประชุมนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติพร้อมใจใส่กางเกงช้างและกางเกงลายอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ โดยได้ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันเพื่อโปรโมทการสวมใส่ผ้าหรือกางเกงที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะของแต่ละพื้นที่ของจังหวัดต่าง ๆ ถือเป็นการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นต่าง ๆ ที่มีศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และสร้างมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของไทยด้วย

.

อีกทั้ง ในที่ประชุมมีมติ 3 เรื่องสำคัญ คือ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนวงการศิลปะไทย ,งานประกวด Thai Youth Streets Art สำหรับนักเรียนและนักศึกษา และงานมหาสงกรานต์

.

1.มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนวงการศิลปะไทย ทางกระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากร และกรมศุลกากร ได้มีการออกมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนวงการศิลปะไทย ให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงศิลปะนานาชาติ โดยจะต้องมีหอศิลป์และมีสถานที่การจัดเก็บงานศิลปะที่ได้มาตรฐานระดับโลก เพื่อดึงดูดนักสะสม ศิลปิน และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

.

มาตรการที่ 1 มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้องานศิลปะ :  บุคคลธรรมดาที่ซื้องานศิลปะสามารถนำค่าใช้จ่ายซื้องานศิลปะมาหักเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีภาษีละ 100,000 บาท จูงใจให้นักสะสม นักลงทุน และประชาชนทั่วไปซื้อผลงานของศิลปินไทยมากขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการผลิตงานศิลปะ และทำให้มูลค่าอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยเพิ่มขึ้นตามมา

.

มาตรการที่ 2 มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ : ศิลปินผู้สร้างสรรค์งานศิลปะ สามารถหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้เพิ่มขึ้น จากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 60 โดยไม่กำหนดประเภทศิลปิน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและส่งเสริมให้ศิลปินสร้างสรรค์งานศิลปะมากขึ้น

.

โดย 2 มาตรการดังกล่าว คาดว่าจะสามารถออกกฎกระทรวงและพระราชกฤษฎีการองรับมาตรการดังกล่าวได้ภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 

.

มาตรการที่ 3 การสนับสนุนการจัดตั้งเขตปลอดอากรประเภทหอศิลป์ : จะช่วยลดภาระภาษีให้กับนักสะสมและผู้จัดนิทรรศการ (ยกเว้นอากรขาเข้า) ทำให้การนําเข้างานศิลปะเป็นไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งเก็บและจัดแสดงงานศิลปะที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย

.

2.งานประกวด Thai Youth Streets Art สำหรับนักเรียนและนักศึกษา ผ่านการวาดภาพบนผนังในพื้นที่สาธารณะ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Dream of Thailand’ ใน 33 จังหวัด 46 สถาบันอุดมศึกษา โดยเปิดรับสมัครแล้วทั้งรุ่นมัธยมศึกษาและรุ่นนิสิต/นักศึกษา ระยะเวลาในการประกวด 29 ถึง 30 มีนาคม 2568 ซึ่งทีมที่ชนะจะได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณจากนายกรัฐมนตรี และมีเงินรางวัลรวม 500,000 บาท จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 

.

3.มหาสงกรานต์ โดยมีไฮไลท์คือ ‘Maha Songkran World Water Festival 2025’ โดยจะจัดระหว่างวันที่ 11 – 15 เมษายน 2568 ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ และจะปักหลักแลนด์มาร์คสำคัญอยู่ที่ท้องสนามหลวง ซึ่งปีนี้ได้แบ่งพื้นที่เล่นน้ำ ขายของ การแสดงที่หลากหลายทั้งวัฒนธรรม ร่วมสมัยและสมัยนิยม และในวันที่ 12-13 เมษายน จะมีขบวนรถพาเหรด ขับแห่รอบพื้นที่บริเวณถนนราชดำเนิน – ท้องสนามหลวง ฃ

#พรรคเพื่อไทย #ซอฟต์พาวเวอร์ #มหาสงกรานต์ #MahaSongkran