ถาม & ตอบ เรื่องนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร

.

1. Q: นโยบายนี้มีการกำกับกิจการกาสิโน ในการป้องกันคนไทยติดการพนันหรือไม่?

A: นโยบายนี้มีการจำกัดคุณสมบัติ ผู้เข้าใช้บริการ ห้ามเยาวชนและกลุ่มเปราะบางอย่างเด็ดขาด โดยมีคุณสมบัติดังนี้

.

ก) อายุไม่น้อยกว่า 20 ปี

ข) มีการลงทะเบียน

ค) มีการชำระค่าธรรมเนียมเข้ากาสิโน ตามบัญชีแนบท้าย มีเพดานสูงสุดที่ 5,000 บาท

ง) สำนักงานฯ สามารถกำหนดลักษณะบุคคลต้องห้ามและสั่งห้ามบุคคลไม่ให้เข้ากาสิโนได้ (Negative List)

.

-ในร่างปัจจุบัน ผู้เข้าเล่นต้องมีเงินฝากขั้นต่ำ 50 ล้านบาท แต่ในชั้นกรรมาธิการ จะมีหลายร่างยื่นประกบ จะต้องหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างการป้องกันการเข้าถึงของกลุ่มเสี่ยงและการดึงผู้เล่นพนันผิดกฎหมายเข้าระบบ

.

-มีการออกมาตรการกำกับดูแล ที่รัดกุมและโปร่งใส

.

-บริษัท ที่เข้ามาขอใบอนุญาตจดทะเบียนจะต้องยื่นมาตรการการลดผลกระทบทางสังคมและการเยียวยา การที่ พ.ร.บ.กำหนดไว้ว่า จะต้องมีทุนจดทะเบียน 10,000 ล้านบาท เพราะเป็นการคัดเลือกการลงทุนที่มีมูลค่าสูง เพื่อดึงดูดบริษัทมีประสบการณ์ มีผลงานที่สำเร็จ มีมาตรฐานการดำเนินงานในระดับโลก

.

-รายได้ที่จะเข้ารัฐนั้น จะมีการแบ่งสัดส่วนเพื่อประโยชน์ของประเทศ เช่น การเยียวยาการติดพนัน การบูรณะสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ

.

2. Q: นโยบายสถานบันเทิงครบวงจร จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นจริงหรือไม่ อย่างไร? และเงินที่ได้ จะไปอยู่ที่ไหน ใครจัดการ หากไม่มีความชัดเจนคุ้มค่าแล้วใครจะลงทุน

A: จุดประสงค์สำคัญของนโยบายนี้ คือการยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อสร้าง Man made Destination ใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าประเทศมากขึ้น มีการใช้จ่ายเงินที่มากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้

.

-ขั้นแรกเริ่ม เงินที่จะเข้ามาในประเทศไทย จากโครงการสถานบันเทิงครบวงจร จะประกอบด้วย

.

1)ทุนจดทะเบียน ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท

2)การลงทุนก่อสร้าง ไม่น้อยกว่า 100,000 ล้านบาท จากการคาดการณ์แบบ Conservative 

3)อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตครั้งแรกสูงสุดฉบับละ 5,000 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมรายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท 

4)การเก็บภาษี GGR (Gross Gaming Revenue) จากผู้ประกอบการกาสิโน

.

-การเก็บรายได้ดังกล่าว สามารถช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น

.

-เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวของครอบครัว มุ่งเป้ากลุ่มกำลังซื้อสูง คาดการณ์รายได้ถึง 119,000 – 238,000 ล้านบาท

.

-คาดการณ์ว่าจะมีการใช้จ่ายรายหัวต่อคนต่อทริป ประมาณ 66,043 บาท

.

-สามารถจ้างงานได้อย่างน้อย 9,000-15,000 อัตรา เพื่อมาทำงานบริการในธุรกิจต่างๆ ของสถานบันเทิงครบวงจร เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า

.

-สร้างรายได้ให้รัฐ จากการจัดเก็บภาษีประมาณ 12,037 – 39,427  ล้านบาทต่อปี

.

-ตัวเลขการคำนวณ ยังไม่รวมการใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากกาสิโน

.

3. Q: นโยบายนี้ จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จริงหรือไม่ อย่างไร?

A: จากผลการศึกษาพบว่า โครงการนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5-10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะมาจากการที่ประเทศไทย ได้สถานที่จัดการแสดง คอนเสิร์ต เทศกาล การแข่งขันกีฬาระดับโลก และกิจกรรมอื่นๆ  โดยประเทศไทยจะสามารถดึงงานอีเวนต์ใหญ่ๆ มาจัดในประเทศไทย เปิดโอกาสให้คนไทยแสดงศักยภาพในเวทีระดับโลก

.

-เป็นแหล่งท่องเที่ยวในช่วง low season  เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ 

.

-สถานบันเทิงครบวงจร จะช่วยเกื้อหนุนศักยภาพด้านการท่องเที่ยวไทย ให้ทัดเทียมต่างประเทศ โดยจะเห็นว่า ในประเทศต่างๆ ก็ล้วนมีการก่อสร้าง Man Made Destination เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น จีน เวียดนาม และตะวันออกกลาง

.

-การมีสถานบันเทิงครบวงจรจะช่วยเสริมจุดแข็งของไทย ในด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมประเพณี และสินค้าจากผลผลิตพื้นเมืองที่มีชื่อเสียง เพราะสถานบันเทิงครบวงจรจะประกอบด้วยสถานที่จัดแสดงศิลปะ วัฒนธรรมของไทย ตลอดจนสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) เพื่อผลักดันส่งเสริมศิลปะ และวัฒนธรรมซอฟต์พาวเวอร์ไทยไปสู่เวทีโลกอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น แตกต่างจากการจัดให้มีกาสิโนในบางประเทศที่มุ่งเน้นการทำบ่อนการพนันของรัฐเป็นหัวใจสำคัญ โดยไม่ได้มุ่งเน้นธุรกิจต่อเนื่องและประเด็นในการส่งเสริมศิลปะ วัฒนธรรมอย่างกรณีนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรของไทย  

.

4. Q: ประเทศได้อะไรจากนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร?

A: นโยบายนี้ จะสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย สามารถนำไปใช้พัฒนาประเทศ เช่น การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ดูแลสังคม การศึกษา และสาธารณประโยชน์อื่นๆ 

.

5. Q: รัฐบาลมีมาตรการอย่างไร ในการป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งฟอกเงิน และเป็นแหล่งผู้มีอิทธิพลและคดีอาชญากรรมต่างๆ ได้อย่างไร? เนื่องจากกลัวเป็นแหล่งซ่องสุม ลักพาตัว ฟอกเงินของธุรกิจผิดกฎหมาย รวมถึงเป็นช่องทางเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองหากินทุจริต

A: ในร่างพระราชบัญญัติฯ นี้ มีการกำหนดองค์กรภาครัฐผู้มีอำนาจกำกับดูแล ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรอย่างใกล้ชิด เพื่อกำกับในทุกมิติหลายชั้น ได้แก่

.

1.คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งมีอำนาจสูงสุดในการกำกับดูแลสถานบันเทิงครบวงจรในเชิงนโยบาย

.

2.คณะกรรมการบริหาร ซึ่งมีอำนาจกำกับดูแลสถานบันเทิงครบวงจร ในเชิงการบริหารจัดการในรายละเอียด และ

.

3.สำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงอย่างใกล้ชิด และนำนโยบายและคำสั่งของคณะกรรมการนโยบายและคณะกรรมการบริหารมาปฏิบัติให้เกิดผล ซึ่งคณะกรรมการแต่ละชุดประกอบด้วยตัวแทนจากกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถหลากหลายด้าน

.

-นอกจากนี้ ยังจะมีการกำหนดให้ตรวจสอบ รายงานกิจกรรมที่น่าสงสัย เช่น การฝากหรือถอนเงินในปริมาณมากหรือทำธุรกิจไม่สมเหตุผล โดยต้องเก็บข้อมูลผู้เล่นและแหล่งที่มาของเงินอย่างละเอียดถูกต้อง

.

-ใช้เทคโนโลยี หรือซอฟต์แวร์ ที่ทันสมัยในการตรวจจับ และติดตามธุรกรรมที่น่าสงสัย ระบบอาจมีการแจ้งเตือนอัตโนมัติ หากพบพฤติกรรมที่ผิดปกติ

.

-มีระบบระบุตรวจสอบตัวตนของลูกค้าก่อนได้รับอนุญาตใช้บริการ โดยเฉพาะลูกค้าที่ทำธุรกรรมที่มีมูลค่าสูง นอกจากนี้ยังตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินทุนและการเคลื่อนไหวเพื่อป้องกันการฟอกเงิน

.

-ประเทศไทย มีพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเพื่อกำกับและป้องกันการฟอกเงิน ดูแลอยู่

.

-การคัดเลือกการลงทุนที่มีมูลค่าสูง เพื่อดึงดูดบริษัทที่มีประสบการณ์ มีผลงานที่สำเร็จ มีมาตรฐานในการจัดงานระดับโลก

.

6. Q: นโยบายสถานบันเทิงครบวงจร จะช่วยแก้ปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมายในประเทศได้จริงหรือไม่?

A:กาสิโน เป็นส่วนหนึ่งของสถานบันเทิงครบวงจรเท่านั้น เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้อย่างถูกกฎหมาย โดยสัดส่วนของกาสิโน จะเป็นพื้นที่ส่วนน้อย (ไม่เกินร้อยละ 10)

.

-ร่างพระราชบัญญัติฯ ฉบับนี้ จะไม่ทำให้ปัญหาพนันผิดกฎหมายที่มีอยู่เพิ่มขึ้น แต่จะช่วยบรรเทาและลดปัญหาการพนันผิดกฎหมายลง โดยมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดและเป็นไปตามมาตรฐานสากล  ซึ่งจะช่วยตอบสนองอุปสงค์ของตลาด Gambling demands ที่มีอยู่ในปัจจุบันแต่ไม่มีอุปทานถูกกฎหมายรองรับ ตลอดจนมีแนวทางป้องกันการติดพนัน รวมถึงสามารถจัดเก็บภาษีได้จากการเล่นพนันเพื่อเป็นรายได้ให้ประเทศอีกทางหนึ่ง เพื่อป้องกันการสูญเสียประโยชน์จากพนันใต้ดินได้อย่างมหาศาล

.

-สถานบันเทิงครบวงจร จะเป็นอุปทานที่ชอบด้วยกฎหมาย ตอบสนองความต้องการผู้เล่นพนัน แทนที่จะไปเล่นพนันผิดกฎหมายดังเช่นปัญหาในปัจจุบัน 

.

7. Q: การออกใบอนุญาตจะมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่มีทุจริต คอร์รัปชัน และจะเชื่อถือการตรวจสอบของกรรมการนโยบายได้อย่างไร? เพราะประชาชนกลัวการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เข้มงวด

A: มีคณะกรรมการที่มีตำแหน่งจากคณะรัฐมนตรี โดยตำแหน่งเหล่านี้ จะทำให้มีการเปลี่ยนบุคคลที่มารับหน้าที่ มีการพ้นตำแหน่ง ก็จะทำให้ช่วยป้องกันปัญหาการสืบทอดอำนาจหรือกุมอำนาจโดยมิชอบ และตำแหน่งทางการเมืองเหล่านี้ยังถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นจากภาคส่วนต่างๆ อยู่แล้ว  

.

8. Q: การมีกาสิโน ไม่เหมาะกับประเทศไทย เพราะสร้างค่านิยมที่ผิดกับประชาชน และยังเป็นการดูดซับเงินจากภาคครัวเรือน ชนชั้นกลาง ผู้ใช้แรงงาน ผู้มีรายได้น้อยและชนชั้นล่างของสังคมหรือไม่?

A:การเข้าถึงสถานประกอบการกาสิโน ของผู้มีสัญชาติไทย ไม่ได้เป็นไปอย่างเสรี เพราะอัตราค่าธรรมเนียมที่กำหนดไว้ท้ายร่างพระราชบัญญัติฯ กำหนดค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนไว้สูงถึงครั้งละ 5,000 บาท ย่อมสะท้อนเจตนารมณ์ที่จะป้องกันกลุ่มคนเปราะบางไม่ให้เข้าถึงสถานประกอบการได้โดยง่าย

.

-นอกจากนี้ ยังมีกำหนดลักษณะบุคคลต้องห้ามและบุคคลไม่ให้เข้าในกาสิโน (Negative List) มีแนวทางการคัดกรองบุคคล การกำหนดฐานภาษี GGR ที่เน้นลูกค้ากลุ่ม VIP ซึ่งตัวอย่างจากการศึกษาของ Marina Bay Sand เกินครึ่งมีรายได้มาจากกลุ่ม VIP นอกจากนี้ การกำหนดให้ผู้ประกอบการสามารถให้เครดิตได้สำหรับลูกค้ากลุ่ม VIP เป็นการลดความเสี่ยงในเรื่องการฟอกเงินมากกว่าการที่นำเงินสดมาใช้อีกด้วย

.

9. Q: สถานบันเทิงครบวงจรแท้จริงคือบ่อนการพนันใช่หรือไม่? และจะเปิดการพนันออนไลน์ด้วยหรือไม่?

A: สถานบันเทิงครบวงจร ไม่เท่ากับ บ่อนการพนัน  เพราะสถานบันเทิงครบวงจรต้องประกอบด้วยธุรกิจอื่นที่หลากหลาย เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สนามกีฬา สวนสนุก สวนน้ำ ยอร์ชและครูซิ่งคลับ สนามกีฬา รวมถึงพื้นที่ส่งเสริมวัฒนธรรม สินค้า OTOP ร่วมกับกาสิโน โดยไม่ได้มีเป้าประสงค์ที่จะส่งเสริมให้การประกอบธุรกิจกาสิโนแต่เพียงอย่างเดียว

.

ดังนั้น ร่างพระราชบัญญัติฯ ฉบับนี้จึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาสถานบันเทิงครบวงจรเพื่อเป็น Man Made Destination อย่างแท้จริง โดยไม่ได้มีวัตถุประสงค์เปิดให้มีการพนันออนไลน์แต่อย่างไร

.

หมายเหตุ : เป็นการสรุปเนื้อหาจาก นิดาโพล เรื่อง คำถามคาใจของประชาชน เกี่ยวกับนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และคำถามจากสื่อออนไลน์

“

#พรรคเพื่อไทย #EntertainmentComplex #เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ #กาสิโน