สภาฯ ปักกิ่ง หารือสภา กทม. ขยายความร่วมมือด้านกฎหมาย สิ่งแวดล้อม คมนาคม ท่องเที่ยว ย้ำสัมพันธ์สภาบ้านพี่เมืองน้อง

วันที่ 17 เมษายน 2568 นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร (สภา กทม.) พร้อมสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.)  ให้การต้อนรับนายโห จุนชู รองประธานคณะกรรมการสามัญแห่งสภาประชาชนกรุงปักกิ่ง และคณะผู้แทนสภาประชาชนกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ห้องพิธีการ อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะประธานสภา กทม. 

.

“ในนามของประธานสภา กทม. ผมขอต้อนรับสภาประชาชนกรุงปักกิ่งทุกท่านที่มาเยือน กทม.ในครั้งนี้ ด้วย กทม.มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับกรุงปักกิ่งมานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ระดับประเทศ ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนที่มีมาหลายร้อยปี ซึ่งทั้ง 2 ประเทศต่างก็มีประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม ประเทศไทยเพิ่งผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ไทยมาไม่นาน คือ เมื่อวันที่ 13 – 15 เมษายน 2568 เป็นช่วงเวลาเทศกาลอันโด่งดังและสำคัญของประเทศไทย คือ เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นเทศกาลปีใหม่ของประเทศไทย โดยได้กลายมาเป็น Soft Power ที่สำคัญของประเทศไทย จะเห็นได้ว่าวัฒนธรรมและประเพณีของไทยนั้นให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง ผมเองก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการที่ทุกท่านได้มาใช้เวลาร่วมกันที่นี่ในวันนี้ จะเป็นนิมิตหมายอันดีว่าพวกเราจะมีไมตรีจิตผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้นฉันครอบครัว” นายสุรจิตต์กล่าว 

.

สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสภา กทม.และสภากรุงปักกิ่งได้เริ่มการสถาปนาความสัมพันธ์สภาบ้านพี่เมืองน้อง เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2544 (ค.ศ. 2001) ณ กรุงปักกิ่ง และได้ร่วมกันส่งเสริมความร่วมมือ รวมถึงพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 23 ปี ย่างเข้าสู่ปีที่ 24 แล้วนั้น สภา กทม.และสภาประชาชนกรุงปักกิ่งยังคงใช้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ฉบับเดิม ไม่ได้มีการปรับปรุง MOU กันเป็นระยะเวลานานแล้ว ในปัจจุบัน กทม.และปักกิ่งก็ได้มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี การเมืองการปกครอง การบริหารราชการ และด้านวัฒนธรรมมากขึ้น หวังว่าจะได้มีการร่วมกันหารือจะแก้ไขปรับปรุง MOU กันในอนาคตอันใกล้นี้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนข้อตกลง ความร่วมมือ และความรู้ของทั้ง 2 เมือง เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการและประชาชนของทั้งสองเมืองต่อไป

.

ด้านนายโห จุนชู กล่าวว่า ไทยและจีนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาอย่างยาวนาน มีการพัฒนาความสัมพันธ์ระดับเมืองและระดับประเทศมาโดยตลอด การเดินทางเยือนในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณสภา กทม.ที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ถึงแม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ แต่ก็สัมผัสได้ถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่น ในวันนี้สภาประชาชนกรุงปักกิ่งมีข้อเสนอเพื่อหารือกับทางสภา กทม. 3 ข้อ คือ 

.

1. สภาประชาชนกรุงปักกิ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือระหว่าง กทม.และกรุงปักกิ่งจะลงลึกและเป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งทั้งสองเมืองเป็นเมืองใหญ่ มีความคล้ายกันด้านสิ่งแวดล้อมและการคมนาคม หากได้เรียนรู้เชิงลึกระหว่างกันก็จะเป็นสัญญาณที่ดี 

.

2. เสนอให้มีการพิจารณาการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านนิติบัญญัติกับสภา กทม. เปิดโอกาสให้สภาประชาชนกรุงปักกิ่งได้แลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านกฎหมาย การออกข้อบัญญัติต่าง ๆ เช่น ออกกฏหมายในการรักษาสิ่งแวดล้อม การก่อสร้างชุมชนเมือง ผลักดันกฎหมายการดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น 

.

3. ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนพลเมืองระหว่าง กทม.และกรุงปักกิ่ง ซึ่งตั้งแต่เดือนมีนาคมของปีที่แล้ว ทั้ง 2 ประเทศได้มีการยกเลิกการขอวีซ่า ทำให้ประชาชนไปหามาสู่กันสะดวกมากขึ้น อีกทั้ง ทั้ง 2 ประเทศยังมีประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่เก่าแก่ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย คิดว่าในอนาคตคงได้มีโอกาสขยายความร่วมมือระหว่างกันด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น

.

นายสุรจิตต์ได้กล่าวตอบรับ และขอบคุณนายโห จุนชู สำหรับข้อเสนอดังกล่าว โดยกล่าวว่า ทางสภา กทม.ไม่ขัดข้อง ตนและเพื่อน ส.ก.พร้อมสำหรับการให้ความร่วมมือในครั้งนี้ตามคำเชิญดังกล่าว เนื่องจากตามโครงสร้างของ กทม.และกรุงปักกิ่ง ถือว่าเป็นมหานครทั้งคู่ โดยปัญหาที่พบคงจะเป็นปัญหาคล้าย ๆ กัน ทางสภา กทม.ไม่ติดขัดและพร้อมที่จะผลักดันความร่วมมือระหว่าง 2 เมืองต่อไป

#พรรคเพื่อไทย #สภากทม. #สุรจิตต์