วันที่ 24 เมษายน 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกไทยเดือนมีนาคม 2568 ขยายตัว 17.8% คิดเป็นมูลค่า 29,548.3 ล้านดอลลาร์ หรือ 988,362 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในประวัติการณ์ ซึ่งถือว่าเศรษฐกิจการส่งออกไปเป็นได้ด้วยดี

.

ขณะที่ส่งออกเฉลี่ย 3 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัว 15.2% มูลค่า 81,532.3 ล้านดอลลาร์ หรือ 2,757,249 ล้านบาท ดุลการค้าเกินดุล 1,081 ล้านดอลลาร์

.

ทั้งนี้ ยังเชื่อมั่นว่าการส่งออกของไทยเป็นพระเอก และยังเชื่อว่าการขยายตัวเศรษฐกิจไทยโต 3% ส่วนการติดตามการเจรจากับสหรัฐยังทำต่อเนื่อง โดยต้องใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส และพรุ่งนี้ (25 เมษายน 2568) จะร่วมหารือ ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ณ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการค้ายุคใหม่ (NEA) เพื่อวิเคราะห์โอกาสของไทยท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าของสหรัฐ โดยเฉพาะกรณีความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ และจีน ที่อาจเป็นโอกาสให้สินค้าของไทยเข้าไปแทนที่สินค้าในตลาดโลก

“อย่าคิดว่าเป็นวิกฤตอย่างเดียว ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาส เศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง และเรายังเดินหน้าต่อไปได้ ยังมีสินค้าที่ไทยจะเข้าไปทดแทน และต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการสวมสิทธินอมินี” นายพิชัยกล่าว

.

ด้านนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขไตรมาสแรกการว่งออก ขยายตัว 12.9% ขณะที่ไตรมาสที่สอง ก็คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

.

โดยปัจจัยมาจากกลุ่มสินค้าทดแทน รวมถึงปัจจัยชั่วคราว ที่ประเทศผู้นำเข้าเร่งการนำเข้า เพื่อป้องกันเรื่องมาตรการ การขึ้นภาษี ของสหรัฐ ภายใน 90 วัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ส่งผลให้เดือนเมษายน – มิถุนายน การส่งออกยังมีโอกาสเติบโตขยายตัวต่อเนื่อง 

.

อย่างไรก็ตามช่วงไตรมาส 3-4 ต้องรอดูผลการเจรจากับทางสหรัฐ รวมถึงสถารณ์ของประเทศอื่น ๆ ที่เป็นคู่ค้าหลักของไทย อาทิ จีน อาเซียน สหภาพยุโรป ที่เขาจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง

#พรรคเพื่อไทย #พิชัย_นริพทะพันธุ์ #ส่งออกนิวไฮ