นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณีการยื่นถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีโครงการรับจำนำข้าว ว่า ขณะนี้ตนใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัด เพื่อรับฟังความเห็นประชาชนให้รอบด้าน ลึกซึ้ง เพราะปัจจุบันโพลบางสำนักก็หลอกเราได้

นายชวลิตฯ กล่าวว่า ประชาชนได้ติดตามการแถลงเปิดคดีโครงการรับจำนำข้าวอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าโครงการรับจำนำข้าวซึ่งรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ฯ ได้ช่วยให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่กลับจะส่งผลให้นางสาวยิ่งลักษณ์ฯ ถูกถอดถอน และถูกดำเนินคดี หรือไม่ ประการใด ประชาชนสนใจมากและเอาใจช่วย ที่บอกว่า “โครงการรับจำนำข้าวขาดทุนหลายแสนล้านบาท” นั้น. เกษตรกรฝากบอกว่า “อย่ามาว่าชาวนาโง่ ไม่รู้เรื่อง ลูกๆ ฉันก็เรียนหนังสือ ฉันก็หาความรู้ในอาชีพของฉัน รู้เท่ากันหมดว่า ต่างประเทศเขาให้ความสำคัญกับอาชีพเกษตรกรรมอย่างมาก เขาตั้งงบประมาณอุดหนุนเกษตรกรรมกันทั้งนั้น เพื่อให้เกษตรกรอยู่รอด ประเทศไทยยังตั้งบอุดหนุนน้อยไปด้วยซ้ำ ไหนว่าเกษตรกรเป็นกระดูกสันหลังของชาติ พอรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ฯตั้งงบประมาณอุดหนุนในโครงการรับจำนำข้าว ตามนโยบายที่หาเสียงไว้และได้แถลงเป็นนโยบายต่อรัฐสภาซึ่งถือเป็นสัญญาประชาคม ก็เกิดกระบวนการกล่าวหาว่าทุจริต ชาวบ้านอยากรู้ว่าอดีตนายกรัฐมนตรีทุจริตอย่างไร เพราะอัยการสูงสุดยังสั่งสอบพยานเพิ่มเติม ซึ่งก็หมายความว่า สำนวนคดีไม่สมบูรณ์ที่จะฟ้องร้องหรือกล่าวหาว่า ขาดทุน โครงการอุดหนุนการเกษตรเพื่อดูแลชาวนาที่ปลูกข้าวให้คนไทยกินทั้งประเทศ และส่งออกนำรายได้เข้าประเทศจำนวนมหาศาล แต่ชาวนายังยากจน มีแต่หนี้สิน ส่วนโรงสี และพ่อค้าส่งออก รวยเอา ๆ การที่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ฯ ช่วยชาวนาดังกล่าว มีกำไร ขาดทุน.ด้วยหรือ ถ้าอย่างนั้น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ดำเนินโครงการมาเป็นสิบปีจนชาวบ้านพอใจ ต่างขาติยกย่อง ไม่เห็นคิดกำไร ขาดทุน หรือโครงการอื่นๆ อีกมากมายที่รัฐบาลดูแลประชาชน จะมาคิดกำไร ขาดทุนได้อย่างไร แต่ถ้าช่วยกันเสนอแนะเพื่อพัฒนาปรับปรุงโครงการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะเป็นกำลังใจแก่ผู้บริหารโครงการและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนโดยส่วนรวม ไม่ใช่ใช้วิธีการมาทำลายกันทางการเมืองแบบนี้ ขณะนี้เกษตรกรลำบากมาก เพราะสายป่านไม่ยาว สินค้าเกษตรราคาตกต่ำทุกตัว ขณะที่สินค้าอุปโภค บริโภค ราคาสูง ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ พ่อค้าในเมืองก็พลอยลำบากไปด้วยเป็นลูกโซ่ อาจจะกล่าวได้ว่า ความเดือดร้อนที่ประชาชนกำลังประสบอยู่ ณ ขณะนี้ มากกว่าหรือเทียบกันไมได้เลยที่ว่ารัฐขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าว

นายชวลิตฯกล่าวเพิ่มติมว่า ตนได้ติดตามการแถลงเปิดคดีโครงการรับจำนำข้าวของท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ฯ เห็นว่าครอบคลุมทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา เฉพาะอย่างยิ่งการชี้ให้สาธารณชนเห็นความจำเป็นที่รัฐบาลต้องดูแลชาวนา ซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนไทยส่วนใหญ่ แต่ถูกเอารัด เอาเปรียบ มาตลอด หากไม่ช่วยเหลือให้เหมาะสม อาชีพเกษตรกรรมก็คงจะค่อย ๆ ล้มหายตายจากไป การที่ท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ฯ มาแถลงเปิดคดีในฐานะผู้กำกับนโยบาย และมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาตอบข้อซักถามในรายละเอียด ขั้นตอนต่าง ๆ ของโครงการ ฯ ถือเป็นการดำเนินการตามข้อบังคับปกติของสภา ฯ ซึ่งถูกต้อง เหมาะสมแล้ว

แต่การที่มีบางกลุ่ม บางฝ่าย พยายามผลักดันให้มีการยกเว้นข้อบังคับของสภา ฯ เพื่อให้ท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ ฯ มาตอบคำถามในขั้นรายละเอียด ซึ่งมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ทำให้เห็นเจตนาพิเศษที่คิดแต่จะใช้วาทะกรรมทำลายกันทางการเมืองเท่านั้น ซึ่งไม่เหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ตนคิดว่า สนช.ส่วนใหญ่เข้าใจสถานการณ์ คงไม่ทำลายบรรยากาศที่รัฐบาลพยายามดำเนินการตามโรดแมปที่วางไว้ ขณะเดียวกัน ตนก็มั่นใจว่า ทหารจำนวนมากก็เป็นลูก หลานชาวนา เข้าใจ เห็นใจหัวอกชาวนา เมื่อมีรัฐบาลในอดีตมาดูแล มาอุดหนุนชาวนา ก็คงจะพิจารณาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน คงไม่หลงไปกับกลเกมของบางกลุ่ม บางฝ่าย ที่จ้องทำลายล้างทางการเมืองไม่รู้จบ แล้วประเทศชาติจะเดินหน้าไปได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามข่าว. ทีมทนายของท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ฯ แถลงว่า ท่านยิ่งลักษณ์ฯจะเดินทางมาแถลงปิดคดีด้วยตนเอง ซึ่งก็คงจะครอบคลุมทุกประเด็นปัญหาที่ ปปช.กล่าวหา รวมทั้งประเด็นคำถามที่ สนช.สงสัยและได้สอบถามไว้