ชูศักดิ์ ชี้ให้ส.ว.มาจากแต่งตั้งขัดต่อหลักปชต.-สนช.ไม่มีความชอบธรรมตัดสิทธิการเมือง

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล
คณะทำง่นฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.)
ยกร่างรัฐธรรมนูญเสนอให้ส.ว.มาจากการแต่งตั้งทั้งหมด ว่า
แนวคิดของกมธ.ออกแบบให้ส.ว.มีอำนาจมากเช่นเสนอกฎหมายได้
ตรวจสอบคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีรวมไปถึงถอดถอนบุคคลและนักการเมือง
เรียกว่ามีอำนาจมากกว่าที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 50 เสียอีก

การเอาคนที่มิได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมาทำหน้าที่นี้จึงขัดต่อหลักการประชาธิปไตยถอยหลังลงคลองประชาชนไม่มีส่วนร่วมเลยแม้แต่น้อย
พูดให้ดูดีว่าเลือกตั้งโดยอ้อมแต่จริงๆแล้วประชาชนไม่รู้เรื่องด้วยเลย
ส.ว.จะกลายเป็นตัวแทนกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆเสียมากกว่า 
ถ้าจะใช้คำว่าเลือกตั้งโดยอ้อมและยังมีความคิดว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนก็ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทางใดทางหนึ่ง

เช่นในฝรั่งเศษให้องค์กรปกครองท้องถิ่นซึ่งมาจากประชาชนไปเลือกส.ว.ยังพออ้างได้ว่ามาจากตัวแทนประชาชนไปเลือกมาระบบที่เสนอจึงขัดต่อหลักการประชาธิปไตย
อาจเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่เขาต้องการจะให้เป็นๆประชาธิปไตยที่ถูกควบคุมโดยคนดี

นายชูศักดิ์
กล่าวถึงกรณีที่กมธ.เปิดโอกาสให้บ้านเลขที่109 และ 111 สามารถลงเลือกตั้งได้ตามปกติ
ว่า เขาไม่มีสิทธิไปตัดสิทธิคนเหล่านี้ เขาไม่ได้มีส่วนไปทุจริตอะไรด้วย
แต่ต้องรับผลเพราะออกกฎหมายมัดมือชก เขาก็โดนมัดมือมัดเท้ากันมาแล้ว 5 ปี
จะห้ามต่อไปอีกนอกจากจะละเมิดหลักสิทธิมนุษย์ชนอย่างรุนแรงแล้วยังอาจถูกประณามว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับไล่ล่า

 เมื่อถามถึงกรณีผู้ที่ถูกถอดถอนโดยสนช.จะสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้หรือไม่นั้นนายชูศักดิ์
กล่าวว่า การตัดสิทธิผู้ที่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งนั้น รัฐธรรมนูญฉบับ 40-50
เขาห้ามไว้แล้ว โดยใช้คำว่าเคยถูกวุฒิสภาถอดถอนออกจากตำแหน่ง
ซึ่งหมายถึงวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญปกติ

แต่ที่สนช.ไล่ถอดถอนคนกันอยู่นี้
เป็นการให้ถือว่าทำหน้าที่วุฒิสภา โดยจริงๆแล้วตนเองเป็นสนช.
มาจากการแต่งตั้งโดยคสช.
ซึ่งก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปแล้วถึงความถูกต้องชอบธรรมทั้งในทางกฎหมายและหลักนิติธรรม
การห้ามคนเหล่านี้ไม่ให้เข้าสู่สนามการเมืองไปตลอดกาล จึงต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์แน่นอนว่ามีวาระพิเศษที่ต้องทำ
ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญ 50 ก็ยกเลิกไปแล้ว รัฐธรรมนูญชั่วคราวก็ไม่ได้ให้อำนาจ
และจะกลายเป็นประเด็นใหญ่ในอนาคต

ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1424946394