แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย จุดยืนและข้อเสนอต่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ
แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย
จุดยืนและข้อเสนอต่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ
ตามที่จะมีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งในช่วงต่อจากนี้ พรรคเพื่อไทยจึงได้รวบรวมข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของสมาชิกพรรคและผู้สนับสนุนพรรค
ที่มีต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อเสนอเป็นถ้อยแถลงแสดงจุดยืน และเป็นข้อเสนอของพรรค
ต่อการร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน ดังนี้
1. การร่างรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ควรมีปรัชญาและเป้าหมายที่ชัดเจนให้ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ที่เป็นการส่งเสริมเสถียรภาพทางการเมืองอย่างยั่งยืน
2. เนื่องจากการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้
เป็นการร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่ 2 แล้ว ประกอบกับระยะเวลาตามโรดแม็พ
ก็ขยายออกไปเรื่อยๆ ขณะที่ประชาคมโลกได้แสดงความกังวลและกดดัน มาโดยตลอด รวมทั้งกรณีที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
แต่ประเทศไทยยังไม่มีรัฐธรรมนูญเลย
ทั้งหมดนี้นำมาซึ่งความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชน
โดยเฉพาะในทางเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศ จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ
เร่งรัดการร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
3.
เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ที่แก้ไขเพิ่มเติมได้กำหนดให้นำร่างรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมการร่างฯ
จัดทำเสร็จแล้ว ไปให้ประชาชนออกเสียงประชามติ ดังนั้นคณะกรรมการร่างฯ จึงควรจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
ตั้งแต่เริ่มต้นยกร่างและควรดำเนินการอย่างกว้างขวางทั่วถึง และที่สำคัญไม่ควรปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ
ที่เกี่ยวกับเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ
4.
โครงสร้างของรัฐธรรมนูญไม่ควรให้ใหญ่โต เทอะทะ
จำนวนหมวดและจำนวนมาตราก็ไม่ควรมีมากนัก
ถ้อยคำและข้อความในเนื้อหาควรกระชับเข้าใจง่าย และไม่เป็นนามธรรม เพราะเป็นการร่างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
ไม่ใช่การเขียนรายงานหรืองานวิจัยทางวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ
ควรเขียนให้กระชับ เป็นรูปธรรม จับต้องได้ ไม่ต้องตีความอีก
5.
เงื่อนไขในการร่างรัฐธรรมนูญ หรือกรอบที่บัญญัติไว้ในมาตรา 35 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว
ปี 2557 ซึ่งมีอยู่ 10 ประการ (บัญญัติสิบประการ) ถือเป็นอุปสรรคอย่างยิ่ง
ในการร่างรัฐธรรมนูญให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ที่เป็นการส่งเสริมเสถียรภาพทางการเมืองอย่างยั่งยืน และที่สำคัญทำให้คณะกรรมการร่างฯ
ขาดอิสระในการร่าง คณะกรรมการร่างฯ จึงควรตั้งหลักให้ได้ว่าข้อจำกัดดังกล่าวมิได้มาจากความเห็นชอบของประชาชน
เป็นกรอบกว้างๆ ที่เป็นนามธรรม การตีความให้เป็นคุณ
ยึดหลักนิติธรรมและหลักการประชาธิปไตย จึงเป็นเรื่องที่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง
6.
การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวในประเด็นการออกเสียงประชามติตามมาตรา
37 นั้น ควรกำหนดให้ชัดเจนว่า ถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบในการออกเสียงประชามติ
ให้นำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 หรือฉบับปี 2550 มาใช้บังคับเป็นการชั่วคราว และให้
กกต. ดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปภายใน 120 วัน ทั้งนี้โดยต้องระบุในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว
ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
ขึ้นมาทำการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรต่อไป
7.
พรรคเพื่อไทยขอยืนยันข้อคิดเห็นและข้อเสนอของพรรคที่เคยเสนอต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
ที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 ซึ่งสรุปสาระสำคัญโดยย่อดังต่อไปนี้
1)
ต้องยึดหลักการประชาธิปไตย ที่อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง มิใช่เป็นของบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดเป็นการเฉพาะ
2) วางกลไกการบริหารจัดการประเทศ
ที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ องค์กร ตามรัฐธรรมนูญและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
สามารถปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภายใต้หลักนิติธรรมและธรรมาภิบาล
3) สร้างดุลและระบบตรวจสอบ ที่เหมาะสมต่อทุกองค์กรที่ใช้อำนาจอธิปไตย
โดยประชาชนมีส่วนร่วม
4)
ไม่ออกแบบให้ฝ่ายบริหารเป็นรัฐบาลผสมที่อ่อนแอ วางกลไกการบริหารจัดการประเทศ ที่รังแต่จะนำไปสู่ความล้มเหลวและความขัดแย้ง
ไม่สามารถแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนได้
5) มุ่งสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
สร้างโอกาสให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ไม่สร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งขึ้นใหม่
6)
ต้องไม่มีวาระซ่อนเร้น
เพื่อมุ่งสืบทอดอำนาจของบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใด
7)
ต้องกำหนดให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจในการเลือกตั้งผู้แทนโดยตรง
และผู้นำฝ่ายบริหารต้องมาจากตัวแทนที่ประชาชนเลือกเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งที่สังคมไทยคุ้นเคย เข้าใจดีและไม่มีปัญหา มีแต่จะยิ่งสร้างความยุ่งยาก มีปัญหา และไร้ประสิทธิภาพ
8) รัฐธรรมนูญต้องเปิดโอกาสให้บุคคลมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งได้อย่างกว้างขวาง
ไม่สร้างข้อจำกัดที่ไร้เหตุผล ข้อจำกัดอันเกิดจากกลไกที่ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม เพียงเพื่อต้องการกำจัดพรรคการเมืองบางพรรคและนักการเมืองบางฝ่าย
9) ต้องมีระบบกลไกในการควบคุมการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ
ให้เป็นไปอย่างถูกต้องและชอบธรรม
10) รัฐธรรมนูญต้องอยู่บนพื้นฐานที่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์
ไม่ควรกำหนดให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ยากจนเกินไป
พรรคเพื่อไทย
14 ตุลาคม 2558