พท.ตอกกลับ ปชป.ย้อนดูตัวไม่รักษาระบอบ ปชต.
ดร.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ อดีต ส.ส.กทม.พท.ให้สัมภาษณ์กรณีนางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ปชป.กล่าวหา พท.ออกแถลงการณ์ปกป้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีต นรม.ในคดีโครงการรับจำนำข้าว ว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ ไม่ชี้แจงตอบข้อกล่าวหา และปลุกระดมมวลชนให้ใส่เสื้อแดงใน 1 พ.ย.58 นั้น
ในฐานะสมาชิก พท.คนหนึ่งขอเรียนว่า แถลงการณ์ของ พท.เป็นการสื่อสารไปยังประชาชนว่าโครงการรับจำนำข้าวมิใช่นโยบายประชานิยมแบบให้เปล่าแต่เป็นหนึ่งในโครงการตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตาม กม.รธน. ให้รัฐทำหน้าที่คุ้มครองและรักษาผลประโยชน์สูงสุดของเกษตรกรในการผลิตและการตลาด ตลอดจนส่งเสริมสินค้าเกษตรให้ได้รับผลตอบแทนสูงสุด
ส่วนที่มิได้ตอบข้อกล่าวหาในรายละเอียดนั้น พท.คำนึงถึงรูปคดีและมารยาททางสังคมที่จะไม่ก้าวล่วงไปในกระบวนการยุติธรรม เพราะโครงการรับจำนำข้าวอยู่ในการพิจารณาของศาลแล้ว ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาต้องนำข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานไปหักล้างข้อกล่าวหาในศาล ไม่ใช่มาเปิดเผยล่อนจ้อนต่อสาธารณะแต่โครงการใหญ่ๆ ขนาดนี้ ยืนยันได้ว่า มีผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบ ควบคุม ในทุกขั้นตอน ไม่ได้ปล่อยปละละเลยตามข้อกล่าวหาแต่ประการใด
สำหรับกรณีที่ พท.จำเป็นต้องออกแถลงการณ์ รวมทั้งสมาชิกบางท่านออกมาตอบโต้ทางการเมือง เพราะ พท. เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมกรณีรัฐบาลจะเร่งรีบ รวบรัด ออกคำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทั้งๆ ที่คดีอาญาที่กล่าวหานายกฯ ยิ่งลักษณ์ฯ ศาลยังไม่ตัดสินว่าผิด ยังเพิ่งอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบบัญชีพยาน ยังมิได้เริ่มกระบวนการไต่สวนด้วยซ้ำ จึงถือว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์ฯ ยังเป็นผู้บริสุทธิ์
นอกจากนั้น ยังปรากฎว่า รอง นรม.ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลได้ให้สัมภาษณ์ในเชิงชี้นำคดีโครงการรับจำนำข้าวบ่อยครั้ง นับว่าไม่เป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาอย่างยิ่ง จึงจำเป็นต้องออกแถลงการณ์รวมทั้งให้สัมภาษณ์ท้วงติงดังกล่าว มิได้ออกมาปกป้องโดยไร้เหตุผลแต่ประการใด
สำหรับข่าวการเชิญชวนให้ประชาชนใส่เสื้อแดง ในวันที่ 1 พ.ย.58 เพื่อให้กำลังใจนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น ในส่วนของพท. ก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ฯ รับทราบความห่วงใยของพี่น้องประชาชนจำนวนมากซึ่งสัมผัสได้จากการไปร่วมกิจกรรมงานบุญ งานกุศลตามจังหวัดต่างๆ ได้รับการต้อนรับการให้กำลังใจอย่างล้นหลามทุกสถานที่ ทุกจังหวัด ท่านไม่เคยคิดออกมาปลุกระดมมวลชนแต่ประการใด
น.ส.ธีรรัตน์ฯ กล่าวในที่สุดว่า ความจริงอยากจะให้คุณรัชฎาภรณ์ฯ ได้ย้อนกลับไปดูตัวเองว่า ใครกันแน่ที่สร้างความ ปั่นป่วนวุ่นวายให้บ้านเมือง ไม่ยอมรับกติกาประชาธิปไตย ขัดขวางการเลือกตั้ง ถึงขนาดจูงมือระบอบอำนาจนิยมมาปล้นอำนาจไปจากประชาชน จนขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนแสนสาหัสทางด้านเศรษฐกิจ ยังไม่รู้สึกตัวอีก ว่ากระทำผิดต่อระบอบ ปชต. ขนาดไหน
สรุปก็คือ หากคุณรัชฎาภรณ์ยังมีความยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยเหลืออยู่บ้าง ก็จงอย่าเป็นลิ่วล้อของระบอบเผด็จการยึดอำนาจจากประชาชนเช่นนี้ ควรที่จะให้ประเทศเดินหน้าเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ให้เกิดการเลือกตั้งและมาต่อสู้กันตามแนววิถีทางหลักเกณฑ์แห่งประชาธิไตย หากคุณรัชฎาภรณ์สำนึกได้และมีความละอายอยู่บ้าง ก็อย่าได้กระทำซ้ำ จำเป็นบทเรียนที่จะช่วยกันรักษาระบอบ ปชต. ให้กับคนรุ่นต่อไป