“ชูศักดิ์” ชี้การใช้มาตรา44ไม่สง่างาม ใช้กระบวนการฟ้องร้องทางแพ่งแฟร์กว่า

      นายชูศักดิ์ ศิรินิล
ฝ่ายก.ม.พรรคเพื่อไทย

เปิดเผยกรณีหัวหน้าคสช.ใช้มาตรา44ออกคำสั่งในโครงการจำนำข้าว อ้างว่าเพื่อคุ้มครองเจ้าหน้าที่และกรรมการในการบริหารโครงการและหาผู้รับผิดชอบในทางแพ่งนั้น
เห็นได้ชัดว่าคำสั่งดังกล่าวไม่แฟร์ต่ออดีตนายกรัฐมนตรี
กรรมการและเจ้าหน้าที่ได้รับความคุ้มครองไม่อาจถูกฟ้องร้องในทางใดๆ
ขณะเดียวกันอีกฝ่ายก็ไม่อาจโต้แย้งหรือคัดค้านโดยวิธีใดๆเสมือนปิดปาก
มัดมือชกให้จำยอมในข้อกล่าวหาและคำสั่งทั้งปวงที่จะมีตามมา จึงไม่ยุติธรรม
การที่หลายฝ่ายแสดงความไม่เห็นด้วย เห็นว่าไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม
ควรที่จะยกเลิกคำสั่งที่39/2558เสียจึงมีเหตุมีผล
การใช้มาตรการพิเศษตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวมาตรา44ก็บอกอยู่ในตัวของมันเองแล้วว่าไม่แฟร์

  ส่วนข้อโต้แย้งว่าควรดำเนินการหาผู้รับผิดทางแพ่งโดยใช้กระบวนฟ้องร้องเป็นคดีแพ่งหรือใช้คำสั่งทางปกครองและข้อที่ว่ารัฐบาลต้องเร่งรีบดำเนินการเพราะเกรงว่าคดีจะขาดอายุความนั้น
มีความเห็นว่าคดีแพ่งทางละเมิดมีอายุความ1ปี ส่วนคดีปกครองตามพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดมีอายุความ2ปีก็จริง
แต่ต้องตั้งคำถามว่านับตั้งแต่เมื่อใด
ในหลักที่ใช้กันมาให้นับแต่วันที่รู้ตัวผู้ต้องรับผิดและมูลค่าความเสียหายที่จะต้องรับผิด
ตราบใดที่ยังไม่รู้ตัวบุคคลและมูลค่าความเสียหายว่าจะต้องรับผิดเท่าไร อายุความก็ยังไม่เริ่มนับ
สอบสวนกันไปปีสองปีสามปีก็ยังไม่เริ่มนับ การอ้างว่าต้องรีบสอบสวนเกรงว่า
จะขาดอายุความจึงเป็นเรื่องเข้าใจคลาดเคลื่อน
และอาจทำให้เจ้าหน้าที่รีบเร่งสรุปโดยขาดความรอบคอบหรือมั่วๆเอาได้
นอกจากนั้นก็ต้องคิดว่าคดีนี้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญาศาลแพ่งต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีอาญา
อายุความทางแพ่งให้ถือตามคดีอาญา คดีอาญามาตรา157มีอายุความ15ปี
ความวิตกกังวลว่าทางแพ่งจะขาดอายุความจึงไม่น่าจะเป็นประเด็น

  ส่วนกรณีว่าสมควรดำเนินการโดยใช้การฟ้องร้องเป็นคดีแพ่งหรือใช้ออกคำสั่งทางปกครองตามพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด
เท่าที่ตรวจสอบดูเรื่องการฟ้องอดีตนายกรัฐมนตรี
หัวหน้ารัฐบาลที่ดำเนินนโยบายทีแถลงต่อรัฐสภาโดยวิธีการออกคำสั่งทางปกครองของนายกรัฐมนตรีหัวหน้ารัฐบาลปัจจุบัน
ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ดังนั้นการจะใช้ก.ม.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่จะมีข้อโต้แย้งได้มากว่าเป็นปัญหาทางการเมือง
ซึ่งจะขัดต่อหลักสุจริต
อีกทั้งเมื่ออ่านก.ม.ดูหลายๆเที่ยวเห็นด้วยกับความเห็นของนักก.ม.หลายๆท่าน
โดยเฉพาะคุณสมลักษณ์ จัดกระบวนพล อดีตกรรมการป.ป.ช
ว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะอยู่ในความหมายและการบังคับตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความรับผิดทางละเมิด
การฟ้องร้องเป็นคดีแพ่งต่อศาลแพ่งก็เคยมีการใช้มาแล้ว ศาลฏีกาก็บอกว่าใช้ได้
ไปนำสืบพิสูจน์กันในศาลจึงน่าจะถูกต้อง ไม่มีข้อโต้แย้งในเรื่องความถูกต้อง
ชอบธรรมเหมือนการใช้คำสั่งทางปกครอง