“คณิน” ชี้ “ยิ่งลักษณ์” สมัคร ส.ส. ได้

          นายคณิน บุญสุวรรณ อดีต ส.ส.ร. ปี 40
ได้กล่าวถึงกรณีที่โฆษก กรธ. กล่าวถึง  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งถูก สนช. ลงมติถอดถอนจะต้องถูกตัดสิทธิ 5 ปี เมื่อพ้น 5 ปี
แล้วจึงจะมีสิทธิสมัคร ส.ส. ได้ ตามรัฐธรรมนูญใหม่ ว่า เป็นการมองด้านเดียว
โดยจงใจที่จะมองข้ามความจริงที่ว่า ระหว่างที่รัฐธรรมนูญปี 2550 ใช้บังคับ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง จึงไม่ได้ถูกตัดสิทธิ 5
ปีตามรัฐธรรมนูญฉบับนั้น ดังนั้น เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนั้นถูกยกเลิกไปก็ต้องถือว่า
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ฯ เป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่ถูกตัดสิทธิใดๆ ทั้งสิ้น

         การที่ สนช.
ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวฯ ลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่งนั้น  ไม่มีผลอะไร เพราะขณะนั้น
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มีตำแหน่งใดๆ แล้ว แต่ถึงขนาด  จะเหมาเอาว่า เพราะถูก สนช. ถอดถอนออกจากตำแหน่งก็เลยถูกตัดสิทธิ
5 ปี ตามรัฐธรรมนูญใหม่ด้วยนั้น ไม่พึงกระทำเป็นอย่างยิ่ง
ไม่ว่าจะมองในมิติของหลักกฎหมาย  หรือหลักรัฐศาสตร์

          นายคณิน
กล่าวว่าถึงแม้จะอ้างว่ารัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวฯ ให้ สนช. ทำหน้าที่วุฒิสภาด้วย
แต่ก็เป็นวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวฯ ไม่ใช่วุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญปี 2550
เพราะวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ถือว่าได้ตายไปแล้ว เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
 และก่อนที่จะตายในวันดังกล่าววุฒิสภาก็ไม่เคยได้ลงมติถอดถอน
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดังนั้น จะมาเหมาเอาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ถูกตัดสิทธิ 5 ปี ได้อย่างไร ?

         นายคณิน
กล่าวว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ท้าทายจริยธรรมของ นายมีชัย ฯ ซึ่งเป็นทั้ง  คสช. และเป็นประธาน กรธ. ด้วย
ว่าจะตั้งธงไว้อย่างไร ? เพราะการที่ สนช. ลงมติถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ฯ และต้องถูกตัดสิทธิ
5 ปี ด้วย ก็อาจถูกมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันในทางการเมืองได้
เพราะถ้าไม่ถูกปฏิวัติก็ไม่มี สนช. เมื่อไม่มี สนช. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ฯ ก็ไม่ถูก  ถอดถอน
และเมื่อไม่เคยถูกถอดถอนก็จะไม่ถูกตัดสิทธิ 5 ปี
นั่นจึงจะเรียกว่าเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมตามปกติ แต่ถ้าถูกปฏิวัติแล้วยังถูกตัดสิทธิ
5 ปี อีก ก็ไม่เรียกว่ากระบวนการยุติธรรมแล้ว แต่เรียกว่าเป็น
“ขบวนการทำลายล้างคู่ปรปักษ์ทางการเมือง” มากกว่า

          ดังนั้นจึงต้องจับตาดู กรธ.
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายมีชัย ฯ ว่าจะตัดสินใจเรื่องนี้  อย่างไร ? โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเอาไปเทียบเคียงกับ กรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ทั้ง  นายมีชัย ฯ และ ดร.วิษณุ ฯ
ได้พร้อมใจกันการันตีว่ามีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งได้ เพราะเหตุที่ถูกสั่งปลดออกราชการฐานยื่นเอกสารเท็จเข้ารับราชการทหาร
ที่สำคัญ นายอภิสิทธิ์  ถูกปลดออกราชการ
ฐาน ประพฤติมิชอบในวงราชการ ในระหว่างที่รัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 102 (6) ยังมีผลใช้บังคับอยู่
จึงถือว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแล้ว ตรงกันข้ามกับในระหว่างที่รัฐธรรมนูญปี
2550 มีผลใช้บังคับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง ดังนั้น
ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัย ฯ จะเขียนออกมาอย่างไรก็ไม่มีผลทำให้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องถูกตัดสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งแต่ประการใด ทั้งนี้
ไม่ว่าจะเป็นการตัดสิทธิ 5 ปี หรือตัดสิทธิตลอดชีวิตก็ตาม

         นายคณิน กล่าวในที่สุดว่า อย่าลืมว่า
ในทางการเมืองถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ฯ เป็นฝ่ายถูกกระทำ
เนื่องจากถูกยึดอำนาจและไล่ออกจากตำแหน่ง
โดยวิถีทางที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ จึงสมควรได้รับการเยียวยามากกว่า ไม่ใช่ถูกซ้ำเติม  โดยกระบวนการที่ไม่ปกติ ในสถานการณ์พิเศษ
เพราะไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ในระบบกฎหมายไทย ว่า “ผู้ถูกกระทำ
ห้ามเยียวยา ผู้กระทำ ห้ามเอาเรื่อง” มันจะเป็นอย่างนั้นไป แล้วจะไปเรียกร้องหาความปรองดองได้อย่างไร
?