“เพื่อไทย” อัด ร่างรัฐธรรมนูญไม่ยอมรับว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน เปิดโอกาสให้มีการสืบทอดอำนาจมีรัฐบาลที่อ่อนแอ ให้อำนาจองค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญ ควบคุมรัฐบาลที่มาจากประชาชน
ตามที่พรรคเพื่อไทยได้เสนอความเห็นมาโดยตลอดว่าประเทศไทยต้องมีรัฐธรรมนูญที่ดี
มีความเป็นประชาธิปไตยที่เป็นสากล เคารพในสิทธิมนุษยชน ยึดมั่นในหลักนิติรัฐ
นิติธรรมมีดุลยภาพและความรับผิดชอบขององค์กรที่ใช้อำนาจอธิปไตยอย่างเหมาะสม ให้ความเคารพในอำนาจตัดสินใจของประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริง
ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและการมีส่วนร่วมของประชาชน เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์และผลักดันการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ
อย่างเป็นรูปธรรม
พรรคเพื่อไทยได้เคยเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ
ซึ่งสรุปสาระสำคัญโดยย่อดังต่อไปนี้
1) ต้องยึดหลักการประชาธิปไตย
ที่อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริงมิใช่เป็นของบุคคลใดหรือกลุ่มบุคคลใดเป็นการเฉพาะ
2) วางกลไกการบริหารจัดการประเทศที่ทุกองค์กรที่ใช้อำนาจอธิปไตย
สามารถปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้หลักนิติธรรมและธรรมาภิบาลโดยมีระบบตรวจสอบ
ที่เหมาะสมซึ่งประชาชนมีส่วนร่วม
3. ต้องให้อำนาจประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจในการเลือกตั้งผู้แทนโดยตรง
และผู้นำฝ่ายบริหารต้องมาจากตัวแทนที่ประชาชนเลือกเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งที่สังคมไทยคุ้นเคยเข้าใจดีและไม่มีปัญหา
มีแต่จะยิ่งสร้างความยุ่งยาก มีปัญหา และไร้ประสิทธิภาพ
4. รัฐธรรมนูญต้องอยู่บนพื้นฐานที่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์
ไม่ควรกำหนดให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ยากจนเกินไป
เมื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ
ฉบับกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธาน
และได้เผยแพร่ต่อประชาชนให้ได้รับทราบ เห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่ปรากฏไม่เป็นประชาธิปไตยตามหลักสากล
และไม่เป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ ที่ประชาชนตกผลึกแล้วประชาชนถูกรอนสิทธิ
อำนาจอธิปไตยของประชาชนถูกลิดรอนและถูกควบคุมกำกับโดยองค์กรที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
คนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเพียงไม่กี่คนเป็นผู้ตัดสินชะตาอนาคตของประเทศ
จะมีรัฐบาลที่อ่อนแอ ขาดเสถียรภาพ
ไม่อาจพัฒนาประเทศได้อย่างต่อเนื่อง คิดนโยบายระยะยาวไม่ได้
ไม่อาจแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนได้ โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. สร้างระบบเลือกตั้ง
ที่จะนำไปสู่การมีรัฐบาลผสมที่อ่อนแอ ตัดสิทธิของประชาชนที่มีโอกาสได้แยกเลือกผู้สมัครเขตออกจากการเลือกพรรคการเมือง
สร้างความสับสนให้แก่ประชาชนบังคับประชาชนให้ลงคะแนนเลือกเฉพาะผู้สมัครเขต
รัฐบาลอ่อนแอไม่อาจแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของประชาชน
เป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาประเทศ และไม่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ
2. ระบบเลือกตั้งใหม่จะนำไปสู่ความอ่อนแอของพรรคการเมือง
นำไปสู่การต่อรองทางการเมือง และจะนำไปสู่การสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหารโดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มิใช่ส.ส.เป็นนายกรัฐมนตรี
ในที่สุดจะนำไปสู่การถดถอยของประชาธิปไตยและอำนาจของประชาชน
3. เพิ่มอำนาจ ให้ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนฝ่ายการเมือง
และฝ่ายต่างๆ วินิจฉัยตีความรัฐธรรมนูญ ได้อย่างกว้างขวาง มีสิทธิขาดในการตีความรัฐธรรมนูญ
ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยสร้างวิกฤตให้กับประเทศมาแล้วมากมายหลายครั้งเคยตัดสินคดีที่แสดงถึงการใช้กฎหมายอย่างฉ้อฉลหลายต่อหลายคดี
ศาลรัฐธรรมนูญจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายตัวแทนของประชาชน
4. ให้องค์กรอิสระ (กกต. , ปปช. , สตง.)
มีอำนาจเหนือรัฐบาลและรัฐสภาโดยการชี้ทิศทางและความเป็นไปในการบริหารราชการแผ่นดิน
ทำให้รัฐบาลและรัฐสภาขาดความเป็นอิสระในการบริหารราชการแผ่นดินและในการตรากฎหมาย
องค์กรเหล่านี้จะทำหน้าที่ต่อต้านนโยบายของรัฐบาล ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศและประชาชนได้
5. การให้ ส.ว.
ทั้งหมดมาจากการสรรหาของคนเพียงกลุ่มหนึ่งแสดงถึงการไม่เคารพในสิทธิของประชาชนที่จะเลือกผู้แทนของตนเองและความถดถอยของประชาธิปไตยไปมากกว่ารัฐธรรมนูญปี
50 เสียอีก ทั้งนี้ ก็เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มอำนาจปัจจุบันได้สร้างระบบตัวแทนของตนเองเพื่อสืบทอดอำนาจต่อไป
6. กำหนดกลไกการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทำให้ไม่อาจแก้ไขได้เลย
เพราะต้องใช้เสียงวุฒิสภาซึ่งมาจากการสรรหาอย่างน้อยหนึ่งในสามและเสียงจากทุกพรรคการเมืองไม่น้อยกว่าร้อยละ
10จะทำให้เกิดปัญหาวิกฤตรัฐธรรมนูญขัดขวางการพัฒนาการเมืองและการพัฒนาประเทศอย่างสำคัญ
แม้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะมีมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตตามที่
กรธ. อ้างเสมอ แต่ก็ได้เห็นแล้วว่าผู้ร่างมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบเพียงใด
ดังจะเห็นได้ว่าไม่มีมาตรการและระบบตรวจสอบในรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557
เลยแม้แต่น้อย เปิดโอกาสให้มีการรับผลประโยชน์ตอบแทนได้หลายทาง หลายตำแหน่งในเวลาเดียวกัน
นอกจากนั้น ก็มุ่งควบคุมแต่เฉพาะภาคการเมือง ละเว้นที่จะกำหนดมาตรการอื่นๆ
ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตจากฝ่ายอื่นๆ เช่นการกำหนดให้ฝ่ายอื่นๆ
ซึ่งใช้อำนาจรัฐ ตลอดจนองค์กรอิสระทั้งหลาย และข้าราชการระดับสูง
เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินต่อสาธารณะ และเมื่อโครงสร้างของระบบการเมืองและการปกครองประเทศซึ่งเป็นโครงสร้างระดับบนมีปัญหาและประชาชนไม่มีสิทธิมีเสียงในกระบวนการได้มาซึ่งองค์กรตรวจสอบต่างๆ
แล้ว ก็หนีไม่พ้นที่จะเกิดวิกฤตทางอำนาจตามมา
อันจะทำให้การแก้ปัญหาการทุจริตไม่อาจเกิดขึ้นได้จริงและโดยที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างขึ้นในบรรยากาศแห่งการเสแสร้งรับฟังความคิดเห็นในระดับหนึ่งเพื่อให้ดูชอบธรรมแต่ไม่สนใจข้อเสนอแนะที่ให้ยึดหลักสากลและเชื่อมั่นในวิจารณญาณของประชาชน
จึงเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่เลวร้ายกว่าร่างเดิม มีการสืบทอดอำนาจแบบแยบยลและเพิ่มอำนาจให้องค์กรต่างๆขึ้นมากมายเพื่อครอบงำรัฐบาลที่ถูกออกแบบมาให้อ่อนแอกำหนดให้ผู้ที่มาจากการเลือกตั้งต้องถูกตรวจสอบและรับผิดชอบทุกอย่าง
แต่คณะรัฐประหารและองค์กรสืบทอดอำนาจทำอะไรก็ได้ทุกอย่างโดยให้ถือว่าชอบด้วยกฎหมายและชอบด้วยรัฐธรรมนูญทั้งหมดและเป็นที่สุด
ห้ามฟ้องร้ององค์กรที่มาจากการเลือกตั้งต้องดำรงตนอยู่ในหลักนิติธรรม
แต่องค์กรที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งอยู่นอกหลักนิติธรรมได้ที่กล่าวนี้ยังไม่รวมถึงเนื้อหาของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่จะกำหนดอำนาจหน้าที่ขององค์การต่างๆ
ตามรัฐธรรมนูญที่อาจจะหมกเม็ดอีกมาก
ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำลายหลักการอันดีงามที่ประเทศเคยยึดถือ
ถอยหลังลงคลอง และยังทำให้ความคิดแบบเผด็จการอำนาจนิยมสามารถกดหัวประชาชนต่อไป ยากที่ประเทศจะกลับคืนสู่สันติสุขได้พรรคเพื่อไทยจึงไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญดังที่ปรากฏนี้
พรรคเพื่อไทยขอเรียนย้ำว่า
รัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตยจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะขาดความต่อเนื่องของนโยบาย ขาดความเชื่อมั่นของต่างชาติ
ผลจากการรัฐประหารที่ผ่านมาเป็นที่ปรากฏชัดแล้วว่า
สภาพเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบัน การบริโภคหยุดชะงัก การลงทุนหดหาย การลงทุนภาครัฐขาดประสิทธิภาพ
การส่งออกหดตัวมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เศรษฐกิจฐานรากตกต่ำ
ประชาชนยากลำบากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
พรรคเพื่อไทยหวังว่า
ผู้ร่างรัฐธรรมนูญและผู้มีอำนาจทั้งหลายจะได้ตระหนักถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหากว่าร่างรัฐธรรมนูญเช่นนี้มีผลบังคับใช้
และควรหาทางแก้ไขเสียเพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ยังคงยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยที่ทุกฝ่ายพอที่จะยอมรับได้
และไม่เป็นต้นตอแห่งวิกฤตการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
รัฐบาลประชาธิปไตยที่เข้มแข็งเท่านั้นที่จะสามารถได้รับการสนับสนุนจากประชาชน
และได้รับการยอมรับจากนานาอารยประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่น
และเกิดประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศและชีวิตของพี่น้องประชาชนได้
พรรคเพื่อไทย
29 มกราคม 2559
Pheu Thai Party
denounces the draft constitution which denies that sovereign power belongs to the people,
but allows the succession of power while making the government weak,
and granting independent agencies and the Constitutional Court power to control the government that comes from the people. Such constitutions cannot resolve the economic woes of the country,
or address the afflictions of the people.
———————————————————-
Pheu Thai Party had made statements that Thailand must have a good constitution that is democratic in accordance to international principles with respect to human rights, upholding the rule of law, while the agencies exercising sovereign power must have balance, responsibility and respect the mandate of the people who are the true owner of the sovereign power. It must promote harmony and reconciliation while driving the various facets of national reform in a tangible manner.
Previously Pheu Thai Party has made a proposal to the Constitution Drafting Committee in which key points may be summarized as follows:
1) To uphold the democratic principles that acknowledge true sovereign power belongs to the Thai people and not to certain individuals or groups of individuals.
2) To create a mechanism in administering the nation so that all agencies exercising sovereign power can carry out its duty for the people with efficiency, under the rule of law and good governance, with appropriate counter-balance system that the people may jointly participate.
3) The people must have the power to directly elect their representatives, and the leader of the executive branch must only be amongst those elected. Making changes to the current electoral system, that is already familiar to the Thai society and problem free, will only bring disruption, troubles and inefficiencies.
4) The constitution must be amendable based on the prevailing situation and such changes should not be made too difficult.
However, when one considers the draft charter released by the Constitution Drafting Committee chaired by Meechai Ruchupan which was unveiled to the public, it can be seen that this draft is apparently not democratic under internationally accepted principles, nor is it democratic in the “Thai style” which the people are used to. In the draft charter, the people are deprived of their rights, and the sovereign power of the people is curbed and falls under supervisory control by unelected agencies. Only a handful of non-elected people decide the fate of the nation. The government is weakened, lacks stability and would be unable to sustain its efforts for national development. It cannot formulate long-term policies and would be unable to address the distress of the people. The key issues are as follows:
1. It creates an electoral system that leads to a weak coalition government and denies people the opportunity to elect constituency MP separately from the political party which will confuse the people, and force them to only use the ballot to vote for their constituency candidate. Such weak governments cannot resolve the distress of the people and become a hindrance to national development and will not be accepted by the international community.
2. The new electoral system will weaken the political parties and bring about political negotiations that will lead to the succession of power by the coup council and provides the opportunity for non-MPs to become prime minister. This eventually leads to the decline of democracy and the power of the people.
3. Increasing power of the Constitutional Court for the dismissal of politicians and granting it with sweeping and absolute power to interpret the constitution despite of many past incidents where the Constitutional Court has stirred national crises for handing down judgments in many cases without sound legal justifications. This will enable the Constitutional Court to become a tool to destroy the elected representatives of the people.
4. Giving the independent agencies (Election Commission: EC, National Anti-Corruption Commission: NACC and the Office of the Auditor General: OAG) power over the government and parliament by directing and providing guidelines in administering the country. This deprives the government and parliament the liberty to administer and legislate. These agencies will seek to oppose government policies and render it impossible to address problems of the nation and the people.
5. Stipulating that the senate be selected by only a group of people shows complete disregard for the rights of the people to elect their own representatives. This brings a blow to democracy even more than the 2007 constitution and is intended to provide opportunity for those currently in power to create their nominees to continue and inherit power.
6. Setting mechanisms for amending the constitution which may not be practical as it requires at least 1/3 of total votes from the appointed senate and at least 10 percent of votes from every political party. This will bring about another constitutional crisis which severely hinders national development.
Even though the Constitution Drafting Committee claimed that this draft charter has measures to prevent and suppress corruption, but the utter lack of check and balance mechanism in the interim Constitution 2015 has already exposed how sincere the intent of the drafters are in resolving graft. This allows the opportunity to illegitimately gain from various ways and from several positions at the same time. Furthermore, there is only emphasis to control the political branch while ignoring to formulate measures that prevent and suppress corruption in other branches, such as, stipulating that other branches exercising state authority, including the independent agencies and high ranking government officials declare their assets to the public. When the structure of the political system and national administration at the top have problems, and the people are given no voice in the selection of these regulatory agencies, power crisis will inevitably occur which inhibits any effort in resolving the problem of corruption. Moreover this draft charter has been written under the atmosphere of pretense to listen to some outside opinions to make it appear justified, but in reality, it paid no heed to the suggestion to abide by international principles and to have faith in the discretion of the people. This draft constitution, thus, is worse than the previous draft with ingenious ways that allows the succession of power while adding immense power to the independent agencies to overwhelm the government that is designed to be weak. It stipulates those that come from election must undergo scrutiny and must bear every responsibility while the coup council and the agencies that inherit its power is able to do anything, and must be deemed as completely legal and constitutional. Their actions are considered final and are barred from any litigation. The elected bodies must abide by the rule of law, but the unelected bodies need not. This does not yet include the content of the organic laws to be drafted that will detail the power of these constitutional agencies which may surreptitiously hide even more issues.
This draft constitution destroys the well-respected principles once upheld by the nation and throws it backwards while allowing the idea of authoritarian dictatorship to continue its strain on the people making it difficult for the nation to attain peace. Pheu Thai Party thus disagrees with this constitution draft as mentioned above, and emphasizes that undemocratic government can never effectively resolve any economic woes because it lacks the continuation of policies and the faith of the international community. The result of the past coup d’état has been made clear with the current economic condition of the nation. Consumption has stalled, investments dwindled, government spending lacked efficiency, export has shrank to record level, grassroots economy is in the doldrums, and the people suffer hardship unlike anything that has been before.
Pheu Thai Party hopes that the drafters of the constitution and those with power will realize the impending damage, should this draft charter be promulgated. They should seek ways to make amends so the new constitution still upholds democratic principles that is more or less acceptable by all parties and not become the seed for another crisis in the future.
Only a strong democratic government can garner support from the people and receive the recognition from other nations to foster trust and bring about efficiency in resolving the economic problems affecting the nation and the lives of the people.
Pheu Thai Party
30th January 2016.