“ณัฐวุฒิ”จี้ เลิกใช้วาทกรรมประชาธิปไตยครึ่งใบแล้วหันใช้ “เผด็จการผลัดใบ” แทน แจง แตกใบใหม่เป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่รากและลำต้นยังเป็นเครือข่ายรัฐประหาร

          นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า จริงๆ แล้วนายมีชัยกับนายวิษณุไม่จำเป็นต้องแสดงฉากปรับความเข้าใจกันเรื่องข้อเสนอที่ 16 เลย เพราะสังคมทราบดีว่าทั้ง 2 คนร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญทุกฉบับของคสช.อยู่แล้ว เรื่องใหญ่ระดับวางกรอบอำนาจอีก 5 ปีไม่น่าจะเพิ่งคุยกันเมื่อวานนี้ ส่วนข้ออ้างเรื่องกินน้ำครึ่งแก้วนั้น ฝากบอกไปยังนายวิษณุว่า เรื่องนั้นเกิดขึ้นเมื่อเกือบ 40 ปีมาแล้ว จะยกเอาคำพูดและบริบทของสถานการณ์เมื่อ 40 ปีก่อนมากำหนดอนาคตประเทศใน 20 ปีข้างหน้าได้อย่างไร

          “ผมไม่ได้สนใจน้ำครึ่งแก้วที่ยื่นมา แต่อยากทราบว่าอีกครึ่งแก้วหายไปไหน มีความชอบธรรมใดที่คนบางกลุ่มจะเอาไปอมไว้ และมีหลักประกันอะไรว่าถึงที่สุดน้ำทั้งหมดนั้นจะไม่ถูกผู้มีอำนาจกลืนลงไป ถ้าอ้างว่าหลังเลือกตั้งอาจเกิดปัญหา เรื่องนี้ป้องกันได้โดยการทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย แล้วทุกคนทุกฝ่ายอยู่ใต้กติกาเดียวกัน ทำหน้าที่ของตัวเองตามกรอบกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา แต่หากทำอย่างที่เป็นข่าว สุ่มเสี่ยงจะเกิดความขัดแย้งและเสียหายยิ่งกว่า”นายณัฐวุฒิกล่าว

          นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ตนไม่ยอมรับวาทกรรมเรื่องประชาธิปไตยครึ่งใบ และขอเรียกร้องให้เลิกใช้คำนี้ เพราะหลักการสำคัญของระบอบประชาธิปไตยคือ อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน หากรัฐธรรมนูญทำได้เพียงให้สิทธิเลือกตั้งเป็นของประชาชน แต่อำนาจถูกรวบไว้ ณ จุดใดจุดหนึ่ง จะเรียกว่าประชาธิปไตยไม่ได้ รูปธรรมที่น่าจะอธิบายได้ชัดเจนกว่าคือ เผด็จการผลัดใบ ต่อให้แตกใบใหม่เป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง แต่หากรากและลำต้นยังเป็นเครือข่ายรัฐประหาร การปกครองแบบนี้ก็ยังเรียกว่าเผด็จการ

25 ก.พ. 59