“ความจริง…ค่อยๆ โผล่” โดยวัฒนา เมืองสุข

วันนี้นายกยิ่งลักษณ์จะต้องไปขึ้นศาลในคดีรับจำนำข้าว ที่ถูกขบวนการระดับชาติร่วมมือกันทำลายปูทางให้ทหารออกมายึดอำนาจ เพื่อให้คนดีทั้งหลายที่อยากเป็นใหญ่แต่ไม่อยากเลือกตั้งได้ควบคุมประเทศนี้ โดยมีพรรคการเมือง ข้าราชการ และองค์กรอิสระที่รัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัยจะใช้เป็นกลไกควบคุมประเทศนี้ ทำหน้าที่หัวหมู่ทะลวงฟันถล่มโครงการ
 
ท่านที่เห็นข่าวประธาน อคส. ออกมายืนยันว่า อคส. ได้จัดส่งข้อมูลโครงการรับจำนำข้าวให้กับอนุกรรมการปิดบัญชีครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2558 คงเห็นความน่ากลัวของ ป.ป.ช. ที่รัฐธรรมนูญฉบับนายมีชัยจะประเคนอำนาจให้ เพราะคดีของนายกยิ่งลักษณ์ได้ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดและนำไปถอดถอนตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 ส่วนอัยการสูงสุดยื่นฟ้องคดีนี้ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 ก่อนที่ อคส. จะส่งข้อมูลให้คณะอนุกรรมการปิดบัญชีเกือบหนึ่งปี เท่ากับทั้ง ป.ป.ช. และอัยการสูงสุดเอาข้อมูลที่จินตนาการขึ้นเองไปยื่นฟ้องนายกยิ่งลักษณ์ในคดีที่มีอัตราโทษจำคุกถึง 10 ปี

ทุกฝ่ายยังร่วมมือกันโฆษณาชวนเชื่อว่าโครงการนี้จะทำประเทศล่มจม เพราะขาดทุนกว่า 5 แสนล้านบาท ในการปิดบัญชีโครงการฯ มีข้าราชการให้ความร่วมมือด้วยการใช้มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 2 สินค้าคงเหลือ (ปรับปรุง 2552) อันเป็นวิธีคำนวณราคาสินค้าคงเหลือตามมาตรา 65 ทวิ (6) แห่งประมวลรัษฎากร มาใช้คิดมูลค่าข้าวสารที่เหลือ 18.96 ล้านตัน เพื่อให้เหลือมูลค่าต่ำสุดจะได้อ้างว่าโครงการขาดทุนมหาศาล ทั้งที่มาตรฐานการบัญชีดังกล่าวใช้เพื่อคำนวณการเสียภาษีของบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเท่านั้น ส่วนโครงการรับจำนำข้าวเปลือกเป็นโครงการของรัฐบาลที่ไม่มีหน้าที่เสียภาษี การที่คนดีทั้งหลายกล้าทำกันถึงขนาดนี้เพราะเชื่อว่าเจ้านายของพวกเค้าต้องปกป้อง ในที่สุดตัวละครสำคัญก็ออกมาพร้อมคำสั่งหัวหน้า คสช ที่ 39/2558 อุ้มสมุนทั้งหลายที่ใส่ร้ายปรักปรำนายกยิ่งลักษณ์ไม่ให้ถูกฟ้องกลับทั้งทางแพ่ง อาญาและวินัย
 
ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือคนดีเหล่านี้จะอาศัยรัฐธรรมนูญนายมีชัย ขออยู่ในอำนาจต่อไปอีก 5 ปี อย่าได้คิดว่าคนดีมักน้อยนะครับ เพราะ 5 ปีคือสองเทอมของการเลือกตั้งเท่ากับคนดีจะขอคุมประเทศนี้ต่อไปอีก 8 ปี หลังจากคุมมาแล้ว 3 ปีรวมเป็น 11 ปี ถึงเวลานั้นจะยังเหลืออะไรในบ้านเมืองนี้ให้คนดีพวกนี้ทำลายอีก

วัฒนา เมืองสุข
26 กุมภาพันธ์ 2559