“เพื่อไทย” ชี้ ลัดขั้นตอน EIA และ EHIA เกาไม่ถูกที่คัน
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี มีคำสั่งหัวหน้าคสช.ใช้รัฐธรรมนูญมาตรา44 เพื่อเเก้ไขความล่าช้าโครงการที่ต้องรายงานผลกระทบสิ่งเเวดล้อม(อีไอเอ) ว่า การลัดขั้นตอน EIA และ EHIA เพื่ออนุมัติโครงการให้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องรอรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเป็นรัฐบาลปรกติที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมาออกนโยบายลักษณะนี้ จะมีสารพัดม็อบ บุกมาคัดค้านกันคับคั่งอย่างแน่นอน ทั้งนักวิชาการ เอ็นจีโอ และภาคประชาสังคม ข้ออ้างที่จะช่วยย่นระยะเวลาในการดำเนินโครงการต่างๆของภาครัฐลงได้มากกว่า 2 ปีหรือครึ่งหนึ่งของระยะเวลาเดิม ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในโครงการต่างๆนั้น วิธีคิดถอดแบบมาจากการแก้ไขกฎหมายเช่าที่ดินจาก 50 ปี เป็น 99 ปี เพื่อส่งเสริมการลงทุนซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงกับลักษณะของปัญหา เกาไม่ถูกที่คัน เพราะต้นตอของปัญหาหลักที่แท้จริงคือการปฏิวัติรัฐประหาร มีรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และไม่มีส่วนใดเชื่อมโยงกับประชาชนเลย ลองสำรวจตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ทั้งการส่งออกเดือนมกราคมที่ลดลงถึง 8.91% ซ้ำเติมจากการส่งออกปีที่แล้วที่ติดลบ 5.78% ขนาดคนไทยเองยังย้ายไปลงทุนต่างประเทศถึง 4 แสนกว่าล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 3-4 เท่า ขณะที่การลงทุนในประเทศกลับเหลือเพียงแค่ 2 แสนกว่าล้านบาท แสดงให้เห็นถึงการหมดความมั่นใจในการลงทุนในประเทศ จึงต้องไปลงทุนที่อื่น การส่งออกที่ทรุดหนัก การลงทุนที่หดหายอัตราการว่างงานมีแนวโน้มสูงขึ้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ลดลงต่อเนื่อง จนหลายองค์กรทยอยปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ของไทยลงเรื่อยๆ
ดังนั้นวิธีแก้จึงไม่ใช่การการลัดขั้นตอน EIA และ EHIAแต่ต้องแก้ด้วยการกลับคืนสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย นำไปสู่การจัดการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้รัฐบาลที่มีอำนาจเต็มมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง ซึ่งประชาชนจะได้ให้คำตอบว่าตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา มีอะไรที่ประชาชนพึงพอใจ ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องได้แก้ไขอะไร ดีขึ้นหรือแย่ลง การทำมาหากินคล่องตัวหรือฝืดเคือง ชาวบ้านกินอิ่มนอนอุ่นกันดีอยู่หรือ คำตอบจะอยู่ในคูหาเลือกตั้งและผลการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจากประชาชนทั้งประเทศ
11 มีนาคม 2559