เพื่อไทย ยัน ทุกนโยบายตั้งแต่ ทรท.-พท. ทำเพื่อทุกตระกูลในประเทศ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตอบคำถามตัวแทน ส.ส.อียูที่ถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะสามารถทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ โดยนายอภิสิทธิ์ระบุว่า ขอให้พรรคเพื่อไทยก้าวข้ามผลประโยชน์ของตระกูลชินวัตร การทำงานการเมืองจะราบรื่นขึ้น ว่า ไม่เหนือความคาดหมายที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องพาดพิงพรรคเพื่อไทยทุกครั้งที่มีโอกาส ทั้งที่มีเรื่องมากมายที่ควรจะหยิบยกขึ้นมาพูดคุยหรือหารือเพื่อแก้ปัญหาให้กับประเทศ แต่กลับดูเหมือนว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยังก้าวไม่ข้ามความขัดแย้งบนฐานความเชื่อผิดๆ และยังหมกมุ่นอยู่กับการประดิษฐ์วาทกรรมเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ความจริงพรรคเพื่อไทย และ พรรคประชาธิปัตย์ ดำเนินนโยบายทางการเมืองคนละแนวทางกัน หลายปีที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งก็สามารถทำได้ดีและเหมาะสม พรรคไทยรักไทยจนถึงพรรคเพื่อไทย ขับเคลื่อนและผลักดันนโยบายจำนวนมากเพื่อประเทศชาติและประชาชน ทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรค ที่องค์การอนามัยโลกยกให้เป็นตัวอย่างของโลก โอทอป กองทุนหมู่บ้าน เอสเอ็มแอล ผลักดันการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท เป็นต้น เป็นสิ่งยืนยันว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยทำเพื่อคนไทยทุกตระกูลตั้งแต่รากหญ้าครอบคลุมถึงทุกกลุ่มรายได้ในประเทศ ซึ่งแตกต่างจากบางพรรคที่แยกไม่ออกระหว่างนายทุนกับเกษตรกรจากกรณี สปก.4-01 ที่เอาที่ดินเกษตรกรไปแจกนายทุน ดังนั้นคำถามที่พรรคประชาธิปัตย์ ต้องเตรียมไว้ตอบ 3 ข้อคือ 1.ปัญหาทุจริตในกทม.จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไรในฐานะที่ผู้สมัครของพรรคเป็นผู้บริหารสูงสุด 2.ใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคแทนนายอภิสิทธิ์ 3.แกนนำกปปส.ที่จะขอกลับเข้าพรรคจะอธิบายกับสังคมอย่างไร ว่าไม่ได้ทำงานการเมืองแบบสองขา แยกกันเดิน รวมกันตี เตรียมคำตอบในส่วนนี้จะเหมาะสมกว่า