“เพื่อไทย” เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้เห็นต่างต่อร่างรัฐธรรมนูญ
คำแถลงพรรคเพื่อไทย
เรื่อง เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้เห็นต่างต่อร่างรัฐธรรมนูญ
และเร่งสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างต่อการแสดงความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน
ตามที่การทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญได้เสร็จสิ้นลงในวันที่ 7 ส.ค. 2559 แต่ด้วยการจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้มีอำนาจต่อผู้มีความเห็นต่างต่อร่างรัฐธรรมนูญ เป็นผลให้ยังมีประชาชนถูกจับกุมและอยู่ระหว่างการดำเนินคดี ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 และประมวลกฎหมายอาญา อยู่เป็นจำนวนมาก นั้น
พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ในปัจจุบันการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว และการที่ร่างรัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติทำให้ประเทศไทยต้องเผชิญกับความท้าทายอีกมาก ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อทำให้ประเทศไทยเดินต่อไปได้ นอกจากนั้นยังต้องมีกระบวนการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเปิดให้มีบรรยากาศการรับฟังความเห็นของประชาชนทุกภาคส่วน แต่การจำกัดสิทธิเสรีภาพอย่างที่ได้มีการดำเนินการในระหว่างการทำประชามติ รวมถึงการจับกุมและดำเนินคดีผู้มีความเห็นต่าง จะไม่ทำให้กระบวนการดังกล่าวลุล่วงไปได้ด้วยการยอมรับของประชาชนและนานาชาติ
พรรคเพื่อไทยจึงขอเรียกร้องดังต่อไปนี้
1. ควรพิจารณาปล่อยตัว “ผู้มีความเห็นต่างต่อร่างรัฐธรรมนูญ” ที่ถูกจับกุม ด้วยเหตุเพราะปัจจุบันการทำประชามติได้สิ้นสุดลงแล้ว การดำเนินการกับผู้เห็นต่างดังกล่าวจึงควรจะยุติลง ในส่วนของผู้มีอำนาจและผู้บังคับใช้กฎหมาย ควรจะได้ใช้ดุลยพินิจในทางสร้างสรรค์ว่าการเผยแพร่ความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 การวิพากษ์วิจารณ์หรือการมีความเข้าใจในตัวบทกฎหมายที่แตกต่างกันเป็นปกติวิสัยของคนในสังคมที่อาจมีความเห็นแตกต่างกันได้ จึงไม่ควรจะตั้งข้อหาขนาดว่ากระทำผิดอาญาร้ายแรงถึงขั้นเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร ทั้งนี้หากรัฐยังคงยืนยันที่จะดำเนินการอยู่ต่อไป ก็ควรต้องใช้กระบวนการยุติธรรมปกติ
อนึ่ง ได้ทราบว่าผู้ถูกคุมขังบางส่วนมีสุขภาพร่างการที่ไม่สมบูรณ์ มีโรคประจำตัว การควบคุมกักขังบุคคลเหล่านี้จึงควรคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างสูง
2. เนื่องจากปัจจุบันการลงคะแนนประชามติได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ควรพิจารณาเสริมสร้างให้มีบรรยากาศการรับฟังความคิดเห็นต่างจากทุกภาคส่วนให้สามารถแสดงข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่จะเป็นประโยชน์ต่อการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอย่างรอบด้าน เพื่อที่กฎหมายดังกล่าวจะสามารถนำพาประเทศไทยให้เดินต่อไปได้ด้วยการยอมรับจากทุกฝ่าย
พรรคเพื่อไทย
10 สิงหาคม 2559
PHEU THAI PARTY STATEMENT
On: Demand for the Release of the Detainees Who Had Different Views on the Draft Constitution
And to Create a Conducive Atmosphere for the Freedom of Expression by All
The Referendum for the Draft Constitution was concluded 7th August 2016, however, due to restriction on the freedom of expression by those in power, several people who oppose the draft constitution are still being detained and are awaiting legal and criminal procedures, as stipulated in the Referendum Act 2016.
As the Referendum is now completed and as Thailand will face more challenges, Pheu Thai Party sees that we will need to have the cooperation from all sides to help move the country forward. Moreover, there will be the process of drawing up the organic legislation; therefore it is necessary to have a conducive atmosphere that will lead to people participation from all sectors. The restrictions to freedom of expression, the arrests and legal actions against those who have different opinions, as done during the referendum, will not help to achieve the objective and will not be acceptable by the people or by the international communities.
Pheu Thai Party calls for the following:
1. To consider to release those “who have different views on the draft constitution” and who were arrested in connection to it. As the referendum is now completed so procedures on these persons should also cease. For those in power and for the law enforcers, more creativity should be given to the comments on views of the draft constitution as it is within the laws of the Referendum Act 2016. Having comments or having different points of view is the norm of any society so it should not be used as a reason to file criminal charges based on this. Such action could lead to defiance among the people, to the point of creating unrest in the Kingdom. But if the state is still staunch in pursuing such actions, then it should use the normal rule of law.
We know that some of those in detention are not well due to ill health. In detaining these persons, practices on human rights and humanitarian principles should be given the highest priority.
2. As the referendum process is now concluded, we feel that there should be an atmosphere that is conducive to hearing out the different opinions and recommendations from all sectors so that there will be an all-rounded opinions that could be useful in drafting up the organic legislation in order to move the country forward in a manner that is acceptable by all.
Pheu Thai Party
10-Aug-2016