คำแถลงพรรคเพื่อไทย เรื่องขอให้หัวหน้า คสช. เลิกชี้นำกระบวนการยุติธรรม
ตามที่ได้ปรากฏจากคำให้สัมภาษณ์ของพลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรีหลายครั้ง เกี่ยวกับการดำเนินคดี
และการเรียกให้รับผิดทางแพ่งกับผู้ต้องรับผิดในโครงการรับจำนำข้าว อันมีลักษณะของการชี้นำการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและชี้นำการพิจารณาคดีของศาล
และยังได้อาศัยรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว
มาตรา 44 พิพากษาคดี ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.เพื่อเปลี่ยนแปลงขั้นตอนทางกฎหมายปกติ
และคุ้มครองความรับผิดของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดท้ายได้สัมภาษณ์ต่อสาธารณชนโดยเปิดเผยจากกรณีที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ได้ระบุว่าจะฟ้องตนเองว่า
“ก็รอจากตอนที่ตัวเองออกจากคุกมาก่อนแล้วกัน ไปเอาคดีตัวเองให้จบก่อนมาฟ้องผม”
นั้น
พรรคเพื่อไทยเห็นว่า หัวหน้า คสช.
เป็นผู้คุมอำนาจเบ็ดเสร็จในการปกครองประเทศ โดยมีอำนาจพิเศษตามมาตรา 44
ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเหนือฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายตุลาการและเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาล
การกระทำใดๆย่อมมีผลต่อการทำหน้าที่ขององค์กรต่างๆ เหล่านั้น
การพูดในลักษณะให้นายบุญทรงออกจากคุกมาก่อน
ทั้งที่คดีนี้มีการฟ้องร้องนายบุญทรงยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลนั้น
เป็นกรณีที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจว่าเป็นการพูดชี้นำผลคดีไว้ล่วงหน้า นายบุญทรง
จะต้องถูกศาลตัดสินให้จำคุกอันถือเป็นการก้าวล่วงอำนาจการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลซึ่งต้องเป็นไปโดยอิสระ
ถูกต้อง และเที่ยงธรรม จึงเห็นได้ว่าการดำเนินการของหัวหน้า คสช.
เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว มีลักษณะของการหวังผลไว้ล่วงหน้าว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกศาลพิพากษาให้จำคุก
และจะต้องให้รับผิดชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งให้ได้
ทั้งที่ควรจะเปลี่ยนให้กระบวนการยุติธรรมได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนตามกฎหมายปกติ
และศาลได้มีความเป็นอิสระในการพิจารณาพิพากษาคดี
ซึ่งความเป็นอิสระของฝ่ายตุลาการนั้น
ถือเป็นหัวใจสำคัญในการอำนวยความยุติธรรมให้กับบุคคล เมื่อหัวหน้า
คสช. อยู่ในฐานะที่จะใช้อำนาจให้มีผลทั้งในทางนิติบัญญัติและตุลาการจึงเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะชี้นำกระบวนการยุติธรรมดังกล่าว
พรรคเพื่อไทย จึงขอเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ได้ยุติการกระทำใดๆ อันจะมีผลให้ การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐมิได้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายปกติด้วยความสุจริต
ถูกต้อง และเที่ยงธรรม
และยุติการก้าวก่าย แทรกแซง หรือชี้นำการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลด้วย
จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
พรรคเพื่อไทย
29 กันยายน 2559