“ชวลิต”ชี้น่าอับอาย ทุจริตเฟื่องฟูในยุครัฐบาลที่อ้างปราบโกง

  นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรอง ลธ.พท.ให้ความเห็นกรณีองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International)ได้จัดทำดัชนีชี้วัด ภาพลักษณ์คอรัปชั่นโลก ( Corruption Perception Index หรือ CPI) ประจำปี 2559 โดยประเทศไทยได้ 35 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 คะแนน (ปี 2558 ได้คะแนน 38 คะแนน) และอันดับร่วงไปอยู่ที่101 จาก 176 ประเทศ (ปี 2558อยู่อันดับที่ 76)

  มีข้อสังเกตว่า การได้คะแนนที่ลดลง และลำดับที่เพิ่มขึ้น ไม่น่าจะเกิดขึ้นในยุคที่ คสช.และรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับการปราบโกง แม้แต่ รธน.ยังได้ชื่อว่า รธน.ฉบับปราบโกง
 
  หากมองในด้านของการตรวจสอบฝ่ายบริหาร ถ้าเป็นสภาผู้แทนราษฏรที่มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลก็คงถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว แต่เมื่อเป็นสภานิติบัญญัติหรือ สนช.ที่ผู้มีอำนาจตั้งมากับมือ จึงไร้การตรวจสอบ

  การทุจริตที่เพิ่มขึ้นโดยไร้การตรวจสอบดังกล่าว จึงส่งผลให้ประเทศขาดความเชื่อมั่น อันเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมการลงทุน

  ดังนั้น หากดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอรัปชั่นมีตัวเลขจมลึกไปมากกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลนี้จึงไม่อาจปฏิเสธหรือนิ่งเฉยได้ ควรหาทางแก้ไข ปรับปรุงมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริต คอรัปชั่นอย่างจริงจัง ไม่ลูบหน้าปะจมูก อันจะถูกวิพากษ์ได้ว่า “สองมาตรฐาน”  

  นายชวลิต ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังไม่อาจคาดการณ์ตัวเลขและการจัดอันดับในการจัดทำดัชนีชี้วัดในปี 2560 ขององค์กรความโปร่งใสนานาชาติ(Transparency  International) เพราะยังไม่สิ้นปี 2560  แต่ก็มีโครงการที่ต่างประเทศให้ความสำคัญติดตามความโปร่งใสในโครงการระดับนานาชาติ  เช่น โครงการจัดซื้อ
เรือดำน้ำจีน, โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน  เป็นต้น  ไม่นับการตรวจสอบโครงการภายในที่เงียบหายไป เช่น โครงการขุดลอกคู คลอง ของ อผศ. ซึ่งปัจจุบัน ครม.ได้ยกเลิกมติ ครม.ที่ให้สิทธิพิเศษแก่ อผศ.  ในการจัดซื้อ จัดจ้าง แต่การตรวจสอบข้อร้องเรียนการทุจริตกลับเงียบหายไป จึงเป็นข้อวิพากษ์ วิจารณ์ถึงการตรวจสอบที่เป็นสองมาตรฐานดัง

  นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้ยังมีข่าวการปลดระวางเรือเหาะ ที่ใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่างบประมาณ, โครงการ GT 200  ลวงโลก ที่ยังหาคนผิดไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ศาลประเทศอังกฤษสั่งจำคุกและยึดทรัพย์เจ้าของบริษัทผู้ผลิตไปแล้ว

  และล่าสุดที่กำลังเป็นประเด็นที่สังคมกำลังติดตามตรวจสอบอยู่ คือ การอนุมัติให้กลุ่มทุนเช่าป่าชุมชนทำโรงงาน ที่ป่าชุมชนห้วยเม็ก อำเภออุบลรัตน์  จังหวัดขอนแก่น ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าป่ายังสมบูรณ์ สภาพยังไม่เป็นป่าเสื่อมโทรม และกระบวนการทำประชาพิจารณ์ชาวบ้านยืนยันว่าเป็นไปโดยมิชอบ

  ทั้งนี้ ผู้รับผิดชอบทั้ง 3 โครงการดังกล่าวข้างต้น ก็นั่งเป็น 1 ใน ครม.ปัจจุบัน จึงควรจะได้มีการพิสูจน์ ตรวจสอบอย่างจริงจังเพื่อความโปร่งใสตามนโยบายรัฐบาล
  นายชวลิต ฯ กล่าวในที่สุดว่า ปัญหาการทุจริต คอรัปชั่น เกิดขึ้นได้ในทุกรัฐบาล  ซึ่งล้วนบั่นทอนความเชื่อมั่นของประเทศทั้งสิ้น
 
  จึงขอฝากข้อสังเกตไปยังรัฐบาลโดยสุจริตใจว่า ปัญหาความเชื่อมั่นจะฟื้นกลับคืนมา หากการตรวจสอบเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่สองมาตรฐานดังที่ถูกวิพากษ์อยู่ในขณะนี้