รุ่นใหม่เพื่อไทยเสวนาสื่อเทศ เน้นปฏิรูปการศึกษา-เศรษฐกิจ
ส.ส.รุ่นใหม่เพื่อไทย แนะพัฒนา 3
ด้าน ดันประเทศไทยก้าวทันสังคมโลก หลังเสียโอกาสมากว่า 3 ปี เน้นการศึกษา เศรษฐกิจชุมชน
การเมือง ย้ำการปฏิรูปในกระบวนการทางกฎหมาย และหลักนิติธรรม เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ทุกคนมีความเสมอภาค
หยุดไล่ล่าคนเห็นต่าง เตรียมพร้อมปรับตัวทางเทคโนโลยี รับมือการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลก
วันที่ 4 เมษายน 2561 สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (Foreign
Correspondents Club of Thailand – FCCT) จัดงานเสวนา
“Move Over Dinosaurs-
A Panel Discussion with Young Thai Politicians” โดยเชิญนักการเมืองรุ่นใหม่จากหลายพรรคร่วมเสวนา
อาทิ ร.ท.
ปรีชาพล พงษ์พานิช จากพรรคเพื่อไทย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากพรรคอนาคตใหม่ นายวราวุธ
ศิลปอาชา จากพรรคชาติไทยพัฒนา และ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ จากพรรคประชาธิปัตย์
ร.ท.
ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.จังหวัดขอนแก่นพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสิ่งที่ประเทศไทยต้องเร่งพัฒนาเพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจโลกอย่างน้อย
3 ด้านคือ เรื่องการปฏิรูปการศึกษา เศรษฐกิจชุมชน และ การเมือง เนื่องจากเทคโนโลยีในภาคอุตสาหกรรมการผลิตเปลี่ยนไปมาก
มีนวัตกรรมใหม่ๆเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล้วนมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกทั้งสิ้น
วันนี้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสในการพัฒนาและปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงมาเกือบ
4 ปีแล้ว โดยเห็นได้จากตัวเลขการส่งออกของไทยเสมือนอยู่ในภาวะพระอาทิตย์ก่อนกำลังจะตกดิน
หากไม่เร่งสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศ เศรษฐกิจไทยจะมีปัญหาในอนาคตอย่างแน่นอน
การจะเดินหน้าปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจรูปแบบใหม่
ต้องให้คนรุ่นใหม่ได้มีบทบาทมากขึ้นและผสานประสบการณ์ของคนรุ่นเก่าเข้าด้วยกัน
ตัวแทนพรรคเพื่อไทย
กล่าวว่า การศึกษาเป็นพื้นฐานของการสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งไทยควรเริ่มจากการกระจายอำนาจบริหารการศึกษาสู่ท้องถิ่น
ปฏิรูปให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกด้วยการเพิ่มโรงเรียนสองภาษา และใช้เทคโนโลยีเข้ามาเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้มากขึ้น
ศึกษาศาสตร์การเรียนรู้แนวใหม่ เพราะถ้าหากไม่โอบกอดเทคโนโลยี ก็อาจจะล้าหลังได้ที่สำคัญต้องวางการศึกษาให้สอดคล้องกับความสามารถของเด็กด้วย
ขณะที่เศรษฐกิจชุมชน
จำเป็นต้องเร่งยกระดับสินค้าท้องถิ่น ด้วยการเปลี่ยนสินค้าที่มีรูปการผลิตแบบเดิม
เป็นสินค้าโอทอปแบบดิจิตัล มีกระบวนการผลิตที่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ สินค้าโอทอปยุคใหม่จะต้องเป็นสินค้าฝีมือคนไทย
มีสำเนียงไทย แต่มีดีไซน์แบบนานาชาติเพื่อสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคในตลาดโลก
และสามารถเข้าสู่ตลาดดิจิตัลได้ง่ายขึ้น
ส่วนในด้านการเมืองนั้น
ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า “การเมืองไทยต้องการคนรุ่นใหม่ที่มีความเป็นชาตินิยม
แต่ไม่ “คลั่งชาติ” เป็นคนรุ่นใหม่ที่ให้คุณค่ากับผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
มากกว่าผลประโยชน์ทางการเมือง” ต้องหยุดไล่ล่าคนเห็นต่าง
สร้างวัฒนธรรมที่เคารพกติกา และปฏิรูปกระบวนการทางกฎหมาย และหลักนิติธรรม ให้ทุกคนมีความเสมอภาคและได้รับความคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกันในทางกฎหมาย
ต้องไม่มีการบังคับใช้กฎหมายแบบสองมาตรฐาน
เพราะกฎหมายควรปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ไม่ใช่เอากฎหมายมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง