แถลงการพรรคเพื่อไทย 28 ตุลาคม 2561

พรรคเพื่อไทย

จะคว้าโอกาสจากโลกยุคใหม่  ให้คนไทยทุกคน

สมาชิกพรรคเพื่อไทยที่เคารพรัก

พี่น้องประชาชนหลายล้านคนที่เคยผ่านการเข้าคูหาไปเลือกตั้งมาแล้วคงเคยได้รับรู้
และได้รับประสบการณ์ตรงจากการบริหารของพรรคเพื่อไทยมาบ้าง
แม้พรรคเพื่อไทยจะมีอายุทางการเมืองตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน เพียงแค่ 11 ปี  แต่สมาชิกพรรคและคณะทำงานที่เกี่ยวข้องหลายคนมีประสบการณ์การทำงานการเมืองมามากกว่า
2 ทศวรรษ
หลายท่านเป็นสมาชิกรุ่นบุกเบิกตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกยุบไปเพราะ
“วิกฤตการเมือง” ดังที่ทุกคนทราบกันดี

บุคลากรของพรรคเพื่อไทยได้ผ่านร้อน ผ่านหนาว
ร่วมทุกข์ ร่วมสุข กับประชาชนไทยมาแล้ว ไม่ว่าในยุคที่มี หรือไม่มีประชาธิปไตย
การร่วมต่อสู้ในสถานการณ์ทางการเมืองหลายวาระ
ทำให้พวกเราตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างนโยบายใหม่ๆ
ที่ยึดโยงกับการสร้างชีวิตที่ดีขึ้น นั่นคือ

โอกาส ที่จะเลือกชีวิตที่ดีขึ้น

รายได้ที่มีศักดิ์ศรี

เรายึดมั่นในความต้องการของประชาชน นโยบายหลายชุดไม่ว่าจะอยู่ในสังกัดของพรรคการเมืองชื่อใดภายใต้ทีมงานของพวกเรา
เป็นนโยบายที่ผ่านการศึกษาเพื่อเข้าใจชีวิต ความทุกข์
เข้าถึงความต้องการทางเศรษฐกิจสังคมของพี่น้อง
พร้อมกับร่วมแก้ไขปัญหาที่ส่งผลต่อวิกฤตของครอบครัว สังคม เช่น ปัญหายาเสพติด
เป็นต้น

พรรคเพื่อไทยได้เสนอนโยบายที่จับต้องได้ เป็นรูปธรรม
ตอบโจทย์ประชาชน และเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตประชาชนเสมอมาตัวอย่างของมรดกทางด้านนโยบายที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบุคลากรของพรรคเพื่อไทยนี้
ได้แก่ กองทุนหมู่บ้าน โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ “โอทอป” นโยบายส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
หรือ “SME” และนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์
เป็นต้น ซึ่งเคยถูกคิดและทำขึ้น เพื่อการกระจายโอกาสสู่ประชาชนส่วนใหญ่
ไม่ให้โอกาสกระจุกตัวอยู่กับคนส่วนน้อยของประเทศ บนหลักปรัชญาที่ว่า

เมื่อกระดูกเรือเข้มแข็ง
เรือทั้งลำก็จะฝ่าฟันพายุไปได้ อย่างทรนง

เมื่อฐานรากเข้มแข็ง โครงสร้าง กลาง และบน
ไม่ต้องรับน้ำหนักเกินความสามารถ ตามความเป็นจริง

ยุคภาษีอาน จะต้องหมดไป

ยุคภาษี ที่เป็นธรรม และเป็นแรงกระตุ้น เพื่ออนาคต
จักต้องเกิดขึ้น

แน่นอนว่า
นโยบายสำคัญที่สนับสนุนคุณภาพชีวิตของประชาชนด้านสุขภาพเช่น “30 บาทรักษาทุกโรค” ก็ยังถูกนำไปใช้
แม้จะมีผู้พยายามล้มเลิกโครงการดังกล่าวเป็นระยะๆ เดิมที โครงการนี้ถูกคิดขึ้น
เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลแก่ประชาชน และยังมีวัตถุประสงค์เพื่อลดต้นทุนด้านการผลิตแก่ภาคเอกชนขนาดเล็กและขนาดกลาง
ให้ภาคเอกชนมีแรงงานคุณภาพที่ต่อเนื่อง และควบคุมค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการได้
เพราะมีบริการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ

นโยบายหลายประการที่พรรคเพื่อไทยกำหนดขึ้นมานั้น
เป็นนโยบายที่คำนึงถึงอนาคตของประชาชน
เน้นการลงทุนเพื่อสร้างความเข้มแข็งของโอกาสและศักยภาพที่เป็นทุนชีวิตของประชาชน
คือนโยบายที่ได้รับความเชื่อมั่นว่าเป็น
นโยบายที่กินได้และเป็น นโยบายที่ออกดอกออกผลให้ชีวิตโดยนโยบายต่างๆ เหล่านี้ ได้สร้างผลทวีคูณทางเศรษฐกิจ
และกระจายโอกาสสู่ทุกชนชั้น ทั้งในเมืองใหญ่และชนบท นอกจากนี้
ยังก่อให้เกิดการขยายตัวของฐานภาษี จากฐานรายได้ใหม่ของประชาชน
จนเป็นรายได้ของประเทศที่เพิ่มขึ้น
โดยไม่ต้องสรรหาช่องทางแปลกประหลาดเพื่อการจัดเก็บภาษีเพิ่ม
จนประชาชนรู้สึกว่าตนเองถูกขูดรีดโดยรัฐ

ถ้าพรรคเพื่อไทยจะกล่าวถึงความสำเร็จในอดีต
พรรคเพื่อไทยคงต้องเน้นย้ำว่า ความสำเร็จในการส่งมอบนโยบายต่างๆ ที่ผ่านมานี้
คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง ถ้าประเทศไทยในยุคนั้น
ไม่มีการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย และไม่มีรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจตัวแทนของประชาชนในการบริหารประเทศ
อย่างไรก็ตาม วันนี้ พรรคเพื่อไทยรู้ดีว่า ไม่ใช่เวลาที่พวกเราจะสามารถโหยหาอดีต
นโยบายที่บุคลากรของพรรคเพื่อไทยเคยคิด เคยทำมาแล้ว
คงเอามาทำซ้ำในปัจจุบันแบบคัดลอกของเก่าไม่ได้ สถานการณ์ของสังคมและโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
จำเป็นต้องได้รับการทบทวนพิจารณา
เพื่อให้สามารถปรับปรุงหรือพัฒนาต่อได้อย่างเหมาะสม

 
ต้องเข้าใจโลก เพื่อเปลี่ยนแปลงให้เท่าทันโลก

ความสำเร็จทางด้านนโยบายในอดีต
เกิดขึ้นจากการมีวิสัยทัศน์ และร่วมกันมองไปข้างหน้าว่า
โลกในยุคนั้นกำลังจะปรับตัวไปในทิศทางใด
และการเป็นรัฐบาลควรสื่อสารส่งเสริมให้ประชาชนไทยเตรียมพร้อมในเรื่องใด
วันนี้
จึงเป็นอีกครั้งหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องทำงานหนัก
เพื่อคิดถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนในสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลง
โดยไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต และใช้ความล้มเหลวที่เป็นผลพวงของวิกฤติการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นบทเรียน

  วันนี้ มีปรากฏการณ์ทางด้านสังคมเศรษฐกิจต่างๆ มากมาย
ที่ก่อให้เกิดอุปสรรค ความท้าทาย และโอกาสใหม่ๆ แก่ประชาชน

  วันนี้ ความท้าทายทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยี
ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องคิดไปข้างหน้าว่า จะลดความเสี่ยงจากการตกงาน
และสร้างงานในภาคธุรกิจใหม่ๆ ให้ประชาชนไทยได้อย่างไร

  วันนี้
มีสงครามการค้าระหว่างประเทศที่กำลังก่อตัวขึ้น
ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องคิดไปข้างหน้าว่า จะสามารถปรับยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทยอย่างไร
ให้แข่งขันได้ในสภาวะความเป็นจริงแห่งศตวรรษที่ 21

  วันนี้ พฤติกรรมการบริโภคในตลาดโลกกำลังเปลี่ยนไป
ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องคิดไปข้างหน้าว่า
โอกาสในการพัฒนาสินค้าและบริการไทยให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงในตลาดโลกอยู่ที่ใด
และรูปแบบการพัฒนาช่องทางการค้าแบบใด
จะก่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการไทยมากที่สุด
โดยเฉพาะผู้ประกอบการและเกษตรกรรายย่อยซึ่งมักกลายเป็นผู้เสียเปรียบในภาวะของความเปลี่ยนแปลง

  วันนี้ กำลังมีความร่วมมือในเวทีโลกเพื่อการพัฒนาเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่
21 หรือ “One Belt One Road” ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องคิดไปข้างหน้าว่า
จะทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงโอกาสทางการค้าขายใหม่
ด้วยต้นทุนโลจิสติกส์ที่แข่งขันได้

  วันนี้ ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ
ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องคิดไปข้างหน้าว่า
ระบบสวัสดิการและกระบวนการสร้างงานในรูปแบบใด
จะทำให้ผู้สูงอายุไทยมีชีวิตที่มีคุณภาพอย่างภาคภูมิใจ

  วันนี้
ระบบการศึกษาต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปสู่การเรียนรู้แบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
พรรคเพื่อไทยจึงต้องคิดไปข้างหน้าว่า รูปแบบการเรียนรู้ทั้งในห้องเรียน
และนอกห้องเรียนใด 
จะทำให้คนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงและสร้างโอกาสแห่งอนาคตที่จับต้องได้จริง

 
ความมุ่งมั่นของเรา: ร่วมมือกับประชาชน
บูรณะความหวังของสังคม มุ่งสร้างประเทศด้วยปัญญา สร้างความน่าเชื่อถือ
เพื่อทลายกำแพงที่ปิดกั้นโอกาสและความมั่งคั่งของชีวิตประชาชน

พรรคเพื่อไทยเล็งเห็นว่า
ประชาชนได้ผ่านสภาพความหมดหวัง ความกดดัน
และการเปลี่ยนแปลงที่สิ้นหวังมานับไม่ถ้วน
ในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงและกดดันให้ทุกประเทศต้องปรับตัวเองเพื่ออนาคต
แต่สังคมไทยของเรายังคงถูกแบ่งแยกด้วยการฉีกเป็นฝักเป็นฝ่ายโดยไม่มีความหวังใหม่ให้เห็นเป็นที่ประจักษ์

พรรคเพื่อไทยรู้ดีว่า
อนาคตที่สุขสมบูรณ์ของประชาชนจะเกิดขึ้นไม่ได้
ถ้าพรรคไม่ร่วมงานกับประชาชนเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยตนเอง
เพราะความล้มเหลวซึ่งเป็นผลพวงของวิกฤตการณ์ในช่วงกว่าสิบปีที่ผ่านมา
คงไม่สามารถยุติลงได้ หากไม่มีความร่วมมือกันเพื่อแก้ไข

วันนี้ พวกเราพรรคเพื่อไทย
จะร่วมมือกับประชาชนในการบูรณะความหวังของสังคม
พวกเรากับประชาชนจะร่วมกันสร้างความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจในสังคม
ที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยปัญญา ด้วยความน่าเชื่อถือแห่งหลักยุติธรรม
อันจะนำมาซึ่งเกียรติยศและความน่าเชื่อถือของโลก พรรคเพื่อไทยจะร่วมมือกับประชาชน
เพื่อทลายกำแพงที่ปิดกั้นโอกาสและความมั่งคั่งของชีวิต

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเชื่อว่า
พรรคการเมืองจะเป็นเพียงร่างทรงทางการเมืองของคนบางคน
หรือเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณของประชาชนนั้น ขึ้นอยู่กับว่าพรรคการเมืองอยู่กับประชาชน
ไม่ว่าประชาชนจะมีความสุขหรือมีทุกข์ และเมื่อประชาชนมีทุกข์
พรรคการเมืองย่อมมีทุกข์ร่วมกับประชาชน วันนี้
เราจึงต้องหาทางออกมุ่งสู่อนาคตซึ่งมีความหวัง
ถึงแม้หนทางนั้นจะเต็มไปด้วยขวากหนามขนาดมหึมา
เราจะใช้ประสบการณ์ทั้งชีวิตของพวกเราทุกคน
ร่วมมือกับประชาชน สร้างสังคมไทยที่มีโอกาส มีความหวัง มีชีวิตที่มีคุณภาพ
และเกิดความสงบสุขที่มีอนาคต

พรรคเพื่อไทยจะคว้าโอกาสจากโลกยุคใหม่ ให้คนไทยทุกคน

เราพร้อม” 

พรรคเพื่อไทย

    28 ตุลาคม 2561