“จิรายุ” เตือน ประชาชนเตรียมรับมือภาวะเศรษฐกิจไทยเดินเข้าสู่เรดโซน

(11 ก.ย. 62) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ ออกมาตอบสังคม ว่า ไม่เป็นความจริงที่ว่านายอุตตมไร้ฝีมือแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ และกลับโบ้ยโทษไปที่ผลกระทบจากสงครามการค้าโลก และอ้างว่านายอุตตมเพิ่งมาทำงานเพียงเดือนเศษนั้น ตนขอบอกไปยังนายอุตตมว่า ถ้ามีลูกน้องออกมาตอบโต้แบบไร้ความรู้เรื่องเศรษฐกิจ อาจส่งผลให้ประเทศอันตรายจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้องได้ และคนจะกล่าวหาได้ว่า รมว.คลัง ไม่มีความรู้พอ ถึงไม่ตอบสังคม และประชาชนจะฝากเงินภาษีทั้งประเทศไว้กับ รมว.คลัง ได้อย่างไร

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ไม่แปลกใจที่เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำขณะนี้ เพราะรัฐบาลปกปิดความจริงไว้ใช่หรือไม่ ซึ่งวันนี้ประชาชนต้องรับรู้ว่าทำไมถึงมีข่าวว่า รัฐบาลบักโกรกไส้แห้ง ถังแตกตูดขาด ชนิดที่ว่าเป็นมหากาฬบักโกรกเลยทีเดียว โดยตนขอเตือนประชาชนด้วยข้อมูลที่ฝ่ายค้านต้องออกมาเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือกับเรดโซนของภาวะเศรษฐกิจที่สัมผัสได้จากข้อมูลความจริง เช่น

1. สถานะทางการคลังของรัฐบาลมีปัญหาเพราะภาครายได้ของรัฐที่มาจากภาษีอากร ปรากฏว่าตั้งแต่ยึดอำนาจปี 2557 เป็นต้นมา จัดเก็บภาษีได้ต่ำกว่าประมาณการมาโดยตลอด ปรากฏตามสถิติการจัดเก็บภาษีของสำนักงบประมาณ ในขณะที่รายจ่ายสูงกว่ารายรับ แถมรัฐบาลต้องกู้เงินมาชดเชยงบประมาณมาตลอดตั้งแต่ยึดอำนาจ และมีการกู้เงินสูงขึ้นเรื่อยๆ ปรากฏตามหลักฐานจากสำนักงบประมาณ และการใช้จ่ายเงินลักษณะนี้แปลว่าสถานะทางการคลังอันตราย เพราะมองไม่เห็นอนาคตว่างบประมาณของประเทศจะเข้าสู่สมดุลทางการคลังเมื่อไร เรื่องนี้ นายอุตตมจะตอบว่าอย่างไร

2. เศรษฐกิจของประเทศวันนี้มีความน่าเป็นห่วงขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขทางเศรษฐกิจทุกตัวส่งสัญญาณอันตรายให้เห็นแล้ว ได้แก่ หนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 12.98 ล้านล้านบาท หรือสูงเท่ากับ 78.7% ของจีดีพี ส่วนกำลังซื้อในประเทศก็หดตัวดูจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ติดลบ 9.1% แถมอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีความเชื่อมั่นเกือบทุกตัวตกต่ำลง ที่สำคัญอัตราความเหลื่อมล้ำของไทยสูงที่สุดในโลก และ รัฐบาลจัดเก็บภาษีได้ต่ำกว่าประมาณการมาตลอด 5 ปี อย่างนี้นายอุตตมจะเรียกว่าอย่างไร

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน อันเป็นวิธีที่ล้มเหลวมาตลอด 5 ปี และมีหลักฐานคือการจัดเก็บภาษีที่ต่ำกว่าประมาณการ และกำลังซื้อของประเทศก็หดตัวแถมตัวเลขหนี้ครัวเรือนสูงที่สุดเป็นที่ 2 ของเอเซีย หรือที่ 11 ของโลก และที่ส่อให้เห็นว่ารัฐบาลนี้บักโกรกไส้แห้ง ถังแตกมากที่สุด ก็คือ การหน้ามืดถึงขนาดออกคำสั่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเอาเงินสะสมที่มีอยู่ราว 600,000 ล้านบาท ออกมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งๆที่รัฐบาลที่มีฝีมือ เขาจะใช้เงินตาม พ.ร.บ.งบประมาณ อย่างนี้ หากไม่ให้เรียกว่า ถังแตก ตูดขาด ก็คงเปรียบได้กับทุบกระปุกของลูกเอาเงินมาใช้จ่าย

ส่วนนายอุตตมก็เป็นทีมเศรษฐกิจของนายสมคิดมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว อย่ามาอ้างว่าเพิ่งมาเป็น รมว.คลัง ได้เดือนเดียว เพราะถือว่าทำงานกันมาหลายปีต่อเนื่อง อีกทั้งนโยบายก็เป็นของเดิมที่ทำต่อเนื่องมาจากรัฐบาล คสช.