“เพื่อไทย” ผนึกกำลังลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมอุบลฯ ย้ำ พร้อมยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชนในยามทุกข์ยาก

วันนี้ (20 ก.ย. 62) เมื่อเวลา 10.00 น. พรรคเพื่อไทย นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายเกรียง กัลป์ตินันท์ นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย ส.ส. อุบลราชธานี ประกอบด้วย นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส. เขต 1 น.ส.กิตติ์ธัญญา วาจาดี ส.ส. เขต 3 นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ ส.ส. เขต 4 นายรัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์ ส.ส. เขต 5 นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส. เขต 7 นายประภูศักดิ์ จินตเวช ส.ส.เขต 9 นายสมคิด เชื้อคง ส.ส. เขต 10 จังหวัดอุบลราชธานี รวมถึง ส.ส. พรรคเพื่อไทยจากทุกภาคกว่า 30 คน ร่วมลงพื้นที่เพื่อระดมกำลังช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ตั้งแต่เขต อำเภอเมือง อำเภอเขื่องใน อำเภอวารินชำราบ อำเภอตาลสุม อำเภอตระการพืชผล ไปจนถึงอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และพาดพิงถึง ส.ส. พรรคเพื่อไทยหายไปไหน ว่า หน้าที่และจิตสำนึกของส.ส. พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่น้ำเริ่มท่วมทุกคนอยู่ในพื้นที่ไม่ใช่แค่จังหวัดอุบลราชธานี แต่ทุกจังหวัดที่มีน้ำท่วม ส.ส. ทำงานหนักอยู่กับประชาชนยามที่มีทุกข์ หน้าที่มารับนายกฯจึงไม่ใช่หน้าที่ของ ส.ส. หรือแม้แต่การเอาอกเอาใจ ซึ่งหน้าที่ ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย มีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือไปดูแลทุกข์สุขและเอาอกเอาใจประชาชน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่เจอ ส.ส. ของพรรคเพื่อไทย

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวย้ำว่า ตลอดช่วงเวลาที่เกิดน้ำท่วมพรรคเพื่อไทยไม่เคยพูดถึงนายกฯ แต่มุ่งมั่นที่จะทำงาน และประสานงานผ่านสภาผู้แทนราษฎร แต่หากนายกฯอยากทำงานให้กับประชาชน ควรนำความเดือดร้อนของประชาชนที่สะท้อนไปแก้ไข ตนเองและ ส.ส. พรรคเพื่อไทยทุกคนจึงไม่ถือสานายกฯ ถ้าอยากทราบว่าทำไมเราไม่มาต้อนรับนายกฯ เพราะพรรคเราไม่เคยแบ่งฝักแบ่งฝ่าย หรือเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น และไม่เคยคิดจะมาแย่งกันเอาหน้า

ส่วนมาตรการเยียวยาผู้ประสบภัย พรรคเพื่อไทยเรียกร้องมาตลอดตั้งแต่สถานการณ์ภัยแล้งจนมาถึงน้ำท่วม อยากให้รัฐบาลทบทวนจากไร่ละ 1,112 บาท ปรับขึ้นเป็นไร่ละไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท แล้วเร่งจ่ายให้ทันภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนเงินที่รับบริจาคไป เป็นเพียงเงินส่วนน้อยเพราะมีงบกลางและงบฉุกเฉิน ซึ่งระเบียบได้ผ่อนปรนเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน แต่วันนี้ยังไม่เห็นการใช้งบนี้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อไปว่า ไม่ขอประเมินแผนการช่วยเหลือของรัฐบาล เพราะหากเป็นเรา อย่างที่เคยทำมาสมัยเป็นรัฐบาลตั้งแต่ไทยรักไทย เจอสถานการณ์อุทกภัยหลายครั้งรวมถึงการเกิดสึนามิ ได้บริหารจัดการและส่งความช่วยเหลือไปยังประชาชนโดยทันที โดยเฉพาะการจัดศูนย์พักพิงต้องมีประสิทธิภาพ ในแง่ของสุขอนามัย แต่สิ่งที่พบปัจจุบันคือประชาชนต้องพึ่งพาตนเอง จึงอยากให้รัฐบาล นำสิ่งเหล่านี้ไปเป็นบทเรียน ปรับปรุงการรับมือหากมีสถานการณ์อุทกภัยเกิดขึ้นในอนาคต

ขณะที่ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เห็นว่า คำสั่งย้ายศูนย์พักพิงของประชาชนให้ไปอยู่ในค่าย มทบ.22 อำเภอเมืองจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเปิดเส้นทางต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ก่อนมีคำสั่งได้มีประชาชนในชุมชนมาปรึกษา เรื่องการย้ายจุดพักพิง เพราะเดือนนี้ต้องย้ายถึง 5 ครั้ง และก่อนที่นายกฯจะเดินทางมาได้สั่งให้ย้ายที่พักพิงบริเวณสะพาน ให้ชาวบ้านไปอยู่ยังศูนย์พักพิงในค่ายทหาร ซึ่งอ้างว่าหากย้ายไปอยู่ใน มทบ.22 จะได้รับงบและอาหาร ซึ่งทั้งหมดได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน พร้อมตำหนิส่วนราชการของจังหวัดที่ไม่ประเมินสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า ถ้ารัฐบาลทำงานเป็น จะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงอย่างที่ประสบอยู่ตอนนี้ ส่วนกรณีที่นายกฯลงพื้นที่ แล้วพูดว่า ส.ส. ไม่ทำงาน ซึ่งความจริงแล้วพรรคเพื่อไทยทำงานมา กว่า 20 วันแล้ว ขณะที่นายกฯเดินทางมากลับสร้างความเดือดร้อนให้ส่วนราชการและประชาชน

หลังจากนั้น เวลา 10.30 น. แกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส. ได้ร่วมกันลำเลียงสิ่งของบริจาคและปล่อยรถคาราวานเพื่อไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเริ่มจุดแรกที่ศูนย์อพยพชั่วคราว จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีพี่น้องประชาชนพักอาศัยอยู่รวมกัน 3 ชุมชน คือ ชุมชนท่ากุดเสียว ตำบลบุ่งไหม , ชุมชนกุดปลาขาว เทศบาลเมืองวารินชำราบ และชุมชนเทศบาลเมืองวารินชำราบ โดยระหว่างการลงพื้นที่ได้มีฝนตกโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้
พี่น้องประชาชนได้สะท้อนว่ามีผู้ประสบภัยที่ได้รับความเจ็บป่วยและไม่สามารถนำตัวออกไปรักษายังโรงพยาบาลได้
ซึ่งต้องเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือโดยด่วน
นอกจากนี้ยังพบว่าสภาพความเป็นอยู่เป็นไปอย่างยากลำบาก
โดยเฉพาะเต็นท์พักพิงชั่วคราวไม่สามารถกันแดดกันฝนได้

คุณหญิงสุดารัตน์
จึงมอบหมายให้ ส.ส.ในพื้นที่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
เร่งจัดหาผ้าใบเพิ่มเติมจากเดิม
เพราะประเมินสถานการณ์แล้วอย่างน้อยต้องใช้เวลากว่า 2 เดือน
จึงจะสามารถกลับเข้าไปใช้ชีวิตในบ้านเรือนได้ตามปกติ ดังนั้น
รัฐบาลต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด
ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาในแง่สาธารณสุข โดยเฉพาะโรคระบาดตามมา
และต้องเร่งดำเนินการจ่ายเงินชดเชยต่างๆให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน

จากนั้นเวลา
14.00 น. คุณหญิงสุดารัตน์พร้อมคณะทำงานพรรคเพื่อไทย
เดินทางต่อมายังศูนย์ประสานงานผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ชุมชนวัดเลียบชุมชนโรงเรียนเทศบาลบูรพา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง
จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมี ส.ส. ในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดสกลนคร
จังหวัดยโสธร จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี จังหวัดมหาสารคาม
จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมเดินทางลงพื้นที่ด้วย
พร้อมมอบสิ่งของและเครื่องอุปโภคบริโภค รวมทั้งให้กำลังใจพี่น้องประชาชน
บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น

“วันนี้พวกเรามาให้กำลังใจพี่น้องประชาชนด้วยความจริงใจ
มากันทั้งพรรค มาด้วยความผูกพัน ขอบคุณทุกความรักที่มีให้พรรคเพื่อไทย
ถึงแม้จะไม่ได้เป็นรัฐบาลตามที่พี่น้องต้องการ
แต่ยืนยันจะยืนเคียงข้างประชาชน ยืนเคียงข้างพี่น้องในยามทุกข์ยาก” 
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว