นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่ตอบรับข้อเสนอของพรรคฝ่ายค้านในการถือธงนำการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนฉีกรัฐธรรมนูญฉบับก่อนหน้านี้ด้วยตัวเอง ซึ่งยังไม่มีคำตอบว่าจะรับผิดชอบอย่างไร เหมือนกับการเรียกร้องให้ทุกคนเคารพกฎหมาย แต่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ เอง ใช้ข้อยกเว้นที่จะไม่ปฏิบัติตามกฎหมายตลอดเวลา การตำหนิติติงฝ่ายเรียกร้องให้ดูตัวอย่างประเทศที่เจริญแล้วที่ใช้สติปัญญาแก้ปัญหาทุกเรื่องไม่ใช่ชวนแต่แก้ไขกฎหมายนั้น ประชาชนคิดได้ว่าประเทศที่เจริญแล้วคงไม่ทำรัฐประหารมากขนาดนี้ ที่ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การแก้กฎหมายให้ดีขึ้น แต่ปัญหาใหญ่คือการทำรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ นี่คือหนึ่งในหลายๆหลักฐานและสิ่งบ่งชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีทัศนคติอย่างไร พูดและทำแต่เรื่องที่ตัวเองได้ประโยชน์เท่านั้นหรือไม่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แม้วาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะอยู่ในนโยบายเร่งด่วนข้อ 12 ที่แถลงต่อรัฐสภา แล้วจะเบี้ยว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ คือผู้ได้ประโยชน์สูงสุดจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้าเป็นนโยบายของรัฐบาลอื่น แถลงแล้วไม่ทำคงถูกร้องไปที่องค์กรอิสระทั้งหลาย เข้าคิวตีความกันไปหมด สภาพนี้พรรคที่มีนโยบายหลักในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างพรรคประชาธิปัตย์ จะอยู่ในรัฐบาลอย่างไร จะเผชิญแรงกดดันนี้อย่างไร เพราะใช้เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบายในการหาเสียงไว้

“นโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา ก็เหมือนเอาโบร์ชัวร์หาเสียงของแต่ละพรรคมาเย็บรวม ไม่มีเอกภาพ ถ้าเป็นรถก็ปะผุนโยบาย ไม่มีอะไรใหม่ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ ประชาชนจะให้คำตอบในทุกสนามการเลือกตั้งซ่อมที่กำลังจะมาถึง” นายอนุสรณ์ กล่าว