(7 ต.ค. 62) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ กอ.รมน. แจ้งความดำเนินคดี มาตรา 116 กับแกนนำ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่ามีการดำเนินการของรัฐบาลผ่าน กอ.รมน. ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ การกระทำอย่างนี้เป็นการเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง จากการที่คะแนนเสียงต่ำลง เพราะรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง และปัญหาการคอรัปชั่นได้ ซึ่งรัฐบาลได้ทำลาย 5 ข้อ คือ
1. รัฐบาลได้ทำลายบรรยากาศที่ดีของบ้านเมือง หลังจากเลือกตั้งแล้ว แต่ประชาชนก็ไม่สามารถใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญได้
2. รัฐบาลได้ทำลายกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างสิ้นเชิง
3. รัฐบาลได้ทำลายความไว้วางใจของประชาชน ทำให้มีข้อสงสัยว่ากระบวนการยุติธรรมถูกแทรกแซงหรือไม่ และน่าจะมีการสั่งการจากผู้บังคับบัญชาการระดับสูง
4. รัฐบาลทำลายภาพลักษณ์ของรัฐบาลเอง ทำให้เกิดคำถามจากประชาชนว่ารัฐบาลมีความจริงใจแค่ไหนในการแก้รัฐธรรมนูญ หรือแค่หลอกลวงพรรคร่วมรัฐบาล และโกหกประชาชน
5. รัฐบาลทำลายความน่าเชื่อถือ ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ดังนั้น อยากขอเรียกร้องรัฐบาลแสดงท่าทีต่อเรื่องนี้ อย่ายืนหลบหลังข้าราชการประจำ ซึ่งหากปล่อยให้เวลาทอดยาวออกไป อาจจะเกิดการทำลายบรรยากาศด้านอื่นๆตามมา

ส่วนเรื่องงบประมาณที่อาจจะออกล่าช้านั้น การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาพูดว่าถ้างบไม่ผ่านจะพากันเดือดร้อนทั้งประเทศ แต่เห็นว่าน่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ มากกว่าที่จะเดือดร้อนกับเรื่องนี้ ถ้าหากไม่ผ่านรัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร ถ้ารัฐบาลทำออกมาดี ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฝ่ายค้านจะไปค้าน และพรรคเพื่อไทยจะติวเข้มสรุปครั้งสุดท้าย ในวันที่ 9-10 ตุลาคมนี้ สำหรับการอภิปรายงบประมาณของรัฐบาล โดยยึดประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน