“ชวลิต” ชี้ ไทยนำเข้าผักจากจีน ปีละกว่า 2,500 ล้านบาท ไม่มีแล็บสุ่มตรวจ แนะ รัฐเร่งจัดการ อย่าให้ทุนนิยมข้ามชาติครอบงำ
(8 ต.ค. 62) นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร
เปิดเผยว่า นับเป็นเรื่องใหญ่มากที่ตนไม่เคยรู้มาก่อนว่า สินค้าผักจากจีนผ่านด่านเชียงของ จังหวัดเชียงราย มีมูลค่าปีละกว่า 2,500 ล้านบาท โดยในวันๆหนึ่งจะมีผักผ่านด่านเชียงของนับร้อยตู้คอนเทนเนอร์ แต่ที่ด่านเชียงของไม่มีห้องแล็บสำหรับสุ่มตรวจผักว่า มีสารเคมีปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานหรือไม่
ผักจากจีนจำนวนมหาศาลดังกล่าว เมื่อผ่านด่านเชียงของแล้ว เป้าหมายปลายทาง คือ ตลาดสี่มุมเมือง ซึ่งจะมีล้งจำนวนมากที่ดำเนินธุรกิจกระจายผักป้อนตลาดต่างๆ ในกรุงเทพฯและปริมณฑล เป็นธุรกิจครบวงจรของคนจีนที่ซึมลึกอยู่ในวิถีชีวิตคนไทย แทนที่จะเป็นธุรกิจของคนไทยที่มีมาแต่ดั้งเดิม
นายชวลิต กล่าวว่า ถ้าตนไม่ได้มาทำหน้าที่ใน กมธ. นี้ ก็ไม่มีทางรู้เลยว่า คนกรุงเทพฯและปริมณฑลบริโภคผักจากจีนโดยไม่มีมาตรการที่ดีพอในการตรวจสอบว่าผักจากจีนมีสารเคมีปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานหรือไม่ และไม่มีทางรู้ว่าเครือข่ายการค้าขายพืชผัก กำลังถูกชาวจีนเข้ามาแย่งอาชีพคนไทยถึงในมุ้งกลางใจเมือง
“กมธ. ไม่ได้มีเป้าหมายกีดกันทางการค้า เราส่งเสริมการค้าเสรี แต่ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม รัฐควรดูแลเกษตรกร และผู้บริโภคได้ดีกว่านี้ ซึ่ง กมธ. จะนำเสนอในส่วนนี้ด้วย”
นายชวลิต กล่าวต่อไปว่า เมื่อวานนี้ (7 ต.ค. 62) คณะทำงาน 4 ฝ่าย ซึ่งมี น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีมติ 9:0 แบนสารเคมีร้ายแรงในภาคเกษตรกรรม 3 ตัว คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ตามข้อเสนอของคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎร และอีกหลายภาคส่วน หลายองค์กร พร้อมส่งมติดังกล่าวให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากมติของคณะกรรมการ 4 ฝ่ายดังกล่าว แสดงให้เห็นว่ากระแสสังคม โดยประชาชนทั่วไปกำลังตื่นตัวกับการบริโภคอาหารปลอดภัย เกษตรปลอดภัย นับเป็นกระแสที่ร้อนแรงยิ่ง ดังนั้น มาตรการขั้นต่อไปที่จะดูแลสุขภาพประชาชนคนไทย จึงควรตีเหล็กกำลังร้อน โดยควรดำเนินการโดยเร่งด่วน ดังนี้ 1. ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดหาห้องแล็บสำหรับตรวจสอบพืช ผัก ผลไม้ ที่ด่านเชียงของ โดยด่วนที่สุด 2. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ควรวางแผนผลิตผักปลอดสารพิษป้อนตลาดสี่มุมเมือง เพื่อป้อนคนกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยต้นทุนค่าขนส่งน่าจะต่ำกว่าผักที่ขนส่งมาจากจีนตอนใต้ และที่สำคัญเกษตรกรไทยจะมีตลาดรองรับอย่างแน่นอน
นายชวลิต กล่าวในท้ายที่สุดว่า การระงับยับยั้งไม่ให้คนไทยตายผ่อนส่งจากสารเคมีในภาคเกษตรกรรม นับเป็นคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้กับประเทศชาติ โดยเฉพาะกับเด็กที่จะเกิดมาเป็นอนาคตของชาติ
“งานนี้เกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วนที่ต้องร่วมแรง ร่วมใจกัน ฝ่าฟันไปให้ได้ ไม่มีใครเป็นพระเอก ถ้าแตกแถว ทุนนิยมข้ามชาติจะเข้ามาครอบงำทันที หวังว่ารัฐบาลจะนำข้อเสนอแนะไปสู่ทางปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของเกษตรกรและประชาชนผู้บริโภคโดยเร็ว”