“อนุสรณ์” เรียกร้อง “ประยุทธ์” แสดงจุดยืนแก้ปัญหาหลังไทยถูกตัด GSP ชี้ ประเทศไม่ใช่ที่ฝึกงานของคนขาดประสบการณ์
(28 ต.ค. 62) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวประจำสัปดาห์ โดยกล่าวถึงกรณีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า บุคลากรทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยได้หารือกันนอกรอบหลายครั้ง ตั้งแต่ครั้งที่รัฐบาลแถลงนโยบาย จนถึงการอภิปรายงบประมาณ ซึ่งเราพยายามทำหน้าที่ของเราภายใต้ข้อจำกัด แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ตอบคำถาม หรือถ้าตอบก็ตอบไม่ตรงคำถาม ในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเราไม่ได้ยึดกรอบเงื่อนไขเวลาเป็นหลัก แต่เราจะทำการรวบรวมหลักฐานข้อมูลข้อเท็จจริง ตั้งแต่เรื่องคุณสมบัตินายกฯ การถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ การแถลงนโยบายที่ไม่บอกที่มารายได้ ฯลฯ เมื่อเรารวบรวมหลักฐานเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้เราจะปรึกษาหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อกำหนดกรอบในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป
นายอนุสรณ์ กล่าวถึงการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และการเลือกตั้งท้องถิ่น ว่า ที่ทางฝ่ายรัฐบาลบอกว่าพร้อมแล้ว ขนาดกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ท่านยังสามารถกำหนดได้ แต่ไม่มีความเป็นธรรมเลยที่ประชาชนไม่รู้เลยว่าจะได้เลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อไหร่ และหากไม่มีการเลือกตั้งใครจะได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งรัฐบาลควรจะแสดงความจริงใจในเรื่องนี้ โดยการกำหนดไทม์ไลน์วันเวลาที่ชัดเจน เพราะที่ผ่านมารัฐบาลมีปัญหาเรื่องการกระจายอำนาจอย่างมาก วันนี้ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ท่านจะต้องคืนอำนาจให้ประชาชน ไม่ใช่บริหารแบบรวมอำนาจไว้ที่ส่วนกลางอย่างรัฐราชการ
โดย นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปว่ากรณีที่สหรัฐฯระงับสิทธิ GSP กับประเทศไทย ถือเป็นเรื่องใหญ่มากเพราะประเทศของเรากำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกที่ลดลง ค่าเงินบาทแข็งตัว นักท่องเที่ยวลดลง ผู้ประกอบการ SMEs เกิดวิกฤตหนัก ฯลฯ
“ขอเรียกร้องรัฐบาลโดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงท่าทีและประกาศจุดยืน ว่าจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ถ้ารู้แล้วไม่แก้เท่ากับปล่อยปละละเลย ไม่ใส่ใจ แต่ถ้าไม่รู้ แปลว่าท่านไม่เหมาะกับการเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แล้วประเทศนี้ไม่ใช่ที่ฝึกงานของคนขาดประสบการณ์ คนที่จะมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจน่าจะมีความพร้อมมากกว่านี้”
สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องทำหลักๆ 4 ขั้นตอน หลังจากนี้ คือ 1. ท่านควรสรุปหาสาเหตุให้ชัดเจนว่าถูกตัด GSP เพราะอะไร 2. ท่านต้องทำความเข้าใจกับทีมงานให้ตรงกัน ไม่ใช่พูดกันไปคนละทาง 3. ท่านจะแก้ปัญหาอย่างไรกับเรื่องนี้ และ 4. ท่านจะเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยและพี่น้องประชาชนอยากเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีและวิธีการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน