“วรวัจน์” อัดรัฐบาลใช้งบประมาณไม่เหมาะสม เทงบ 200 ล้าน ซื้ออาคารใหม่ในต่างแดน ไม่สนใจชาวบ้านเดือดร้อน
(30 ต.ค. 62) นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รองประธานคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 และกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การพิจารณางบประมาณของกระทรวงพาณิชย์ ตั้งงบประมาณไว้ 7.5 พันล้านบาท ยังคงมีข้อสงสัยในหลายประการที่ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ตอบคำถามของคณะกรรมาธิการไม่ชัดเจน
โดยกรรมาธิการ ได้ตั้งข้อสังเกตกรณีสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ใช้งบประมาณ 203 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารที่ทำการคณะผู้แทนการค้าไทยถาวรประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญา ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า คุ้มค่าหรือไม่ เนื่องจากงบประมาณ ปี 2563 เป็นงบประมาณขาดดุล และกู้เงินจากต่างประเทศมาทำงบประมาณเกือบ 5 แสนล้านบาท
ขณะที่อาคารหลังนี้เช่ามาเป็นเวลา 24 ปีแล้ว จึงต้องพิจารณาว่าจะเอางบประมาณซึ่งมาจากการกู้ ไปซื้อจะคุ้มกับค่าดอกเบี้ยและค่าดูแลที่ต้องเสียหรือไม่ เมื่อเทียบกับค่าเช่าที่เช่าอยู่ กรรมาธิการซีกฝ่ายค้านคัดค้านแนวคิดดังกล่าวเพราะเห็นว่าในสภาพที่ประเทศมีหนี้สินที่ต้องกู้เงินมาจ่ายงบประมาณติดต่อกันนานแล้วเป็น 10 ปี และอย่างน้อยจะต้องกู้ไปอีกไม่ต่ำกว่า 10 ปี เป็นการใช้งบประมาณที่ไม่เหมาะสม
นายวรวัจน์ กล่าวด้วยว่า การดำเนินการเรื่องนี้ภายใต้สถานการณ์ของประเทศและประชาชนกำลังเดือดร้อน ขาดรายได้ บริษัทต่างๆปิดกิจการ มีการคาดการณ์ว่าในปีหน้าจะมีคนตกงานอีกไม่น้อยกว่า 500,000 คน จึงเป็นสภาพการณ์ที่ไม่เหมาะสมที่จะใช้จ่ายเม็ดเงินไหลออกไปต่างประเทศ จึงควรกลับไปใช้วิธีการเช่าเหมือนที่เคยทำมาทุกปีก่อน และนำเงินตรงนั้นมาช่วยเหลือประเทศในการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชนภายในประเทศ ซึ่งตนได้ขอสงวนคำแปรญัตติเอาไว้พูดกันในสภาฯ เพื่อชี้แจงถึงการตัดเพื่อค้านการดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์
“ชาวบ้านจะตายอยู่แล้ว ยังจะใช้เงินแบบนี้อีกขนาดเอาสภาพเศรษฐกิจชาวบ้านมาเปรียบเทียบแล้ว ก็ยังไม่ฟัง หากให้ 1 กระทรวง เกรงว่าในอนาคตจะมีอีกหลายหน่วยงาน อาทิ กระทรวงต่างประเทศ หน่วยงานกองทัพ ฯลฯ ของบประมาณเพื่อซื้ออาคารเช่นเดียวกับกระทรวงพาณิชย์” นายวรวัจน์ กล่าว