“เพื่อไทย” อัด “ประยุทธ์” หยุดเห็นแก่ตัว เล่นแง่ ม.44 ปลดท้องถิ่น ดองไว้หลายจังหวัด
(31 ต.ค. 62) นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งจะเกิดขึ้นในปีหน้า เมื่อทุกอย่างพร้อม เพราะต้องรองบประมาณและเรื่องอื่นๆ พร้อมบอกด้วยว่าวันนี้ก็ยังมีคนทำงานตรงนี้อยู่แล้ว ว่า ขอเตือนสติไปยังท่านนายกรัฐมนตรีให้คำนึงถึงสภาพความเป็นอยู่ปัจจุบันของประชาชนด้วย เพราะเวลานี้ประชาชนรอการเลือกตั้งท้องถิ่นมานานกว่า 6 ปีแล้ว นานกว่าการเลือกตั้งทั่วไปอีก เท่ากับว่ามีการแช่แข็งสิทธิและหน้าที่ของประชาชนที่จะได้เลือกผู้แทนท้องถิ่นของตัวเองยาวนานกว่าการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งตรงนี้ถือว่าทำงานใกล้ชิดกับประชาชนมากเช่นเดียวกัน
ขณะที่ในหลายจังหวัด ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ว่าจะ อบต. อบจ. เทศบาล ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ก็ถูกหัวหน้า คสช. ซึ่งก็คือท่านนายกฯ คนปัจจุบันใช้อำนาจ ม.44 โยกย้าย ปลดออก รวมถึงมีการดองตำแหน่งไม่ให้ทำงานอยู่เป็นจำนวนมากทั่วประเทศ แม้แต่ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งมาจากการเลือกตั้งก็ถูกคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ปลดออกจากตำแหน่งไปแล้ว เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2559 โดยอ้างว่าเพื่อเปิดทางตรวจสอบข้อกล่าวหาต่างๆ และให้การทำงานมีประสิทธิภาพ หลายกรณีจนวันนี้ก็ยังไม่เห็นคดีคืบหน้าแต่อย่างไร แต่พอใกล้เลือกตั้งใหญ่ก็มีการปลดล็อก ม.44 ให้กับบางจังหวัด
การใช้อำนาจ ม.44 ที่สามารถยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้อีก เช่น ปลดกรรมการพนักงานส่วนตำบล จังหวัดสมุทรสาคร 7 ตำแหน่ง พักงานเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวม 193 ตำแหน่ง และโยกย้ายปฏิบัติราชการในตำแหน่งอื่นรวมอีก 104 ตำแหน่ง และรวมไปถึงการย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดรวม 11 จังหวัด ได้แก่ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ , ตาก , จันทบุรี , ปัตตานี , กาญจนบุรี , กาฬสินธุ์ , เชียงราย , ภูเก็ต , ราชบุรี , สิงห์บุรี ไปเป็นผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยว่าอ้างให้เกิดความเหมาะสมในการทำงาน และย้ายผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ไปประจำสํานักงานปลัดกระทรวง อีกด้วย
“ผมจึงเรียนท่านนายกรัฐมนตรีว่ายุค คสช. นั้นจบไปแล้ว และตามหลักสากลต้องให้มีการจัดการเลือกตั้ง และคืนอำนาจสู่ประชาชนโดยเร็วที่สุด ซึ่งรวมไปถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นด้วย ขอให้คำนึงถึงผลโยชน์ของตนให้น้อยลง และคิดถึงประชาชนให้มากขึ้น มิใช่รอวันที่จะรอใช้งบประมาณ เพื่อหวังทำให้คะแนนนิยมของตนเองขึ้นหรือไม่ หรือใช้กลไกอำนาจเหล่านั้นที่เคยกดเขาไว้มาเป็นเครื่องมือทางการเมืองของตนเองในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งประวัติศาสตร์ที่กำลังจะเกิดขึ้น คนอื่นพร้อมแล้ว แต่พวกท่านยังไม่พร้อมสักทีก็น่าประหลาดใจ ที่สำคัญมองประเทศไปให้เห็นภาพกว้างว่าประโยชน์ส่วนรวมคือประชาชนทั้งประเทศ” นายตรีรัตน์ กล่าว